[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 460
สีลัฏฐิติวรรคที่ ๓
๑. สีลสูตร
ว่าด้วยกุศลศีล
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 30]
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 460
สีลัฏฐิติวรรคที่ ๓
๑. สีลสูตร
ว่าด้วยกุศลศีล
[๗๖๗] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง ท่านพระอานนท์และท่านพระภัททะอยู่ ณ กุกกุฏาราม ใกล้เมืองปาฏลีบุตร. ครั้งนั้น ท่านพระภัททะออกจากที่เร้นในเวลาเย็น เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่อยู่ ได้ปราศรัยกับท่านพระอานนท์ ครั้นผ่านการปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ครั้นแล้วได้พูดกะท่านพระอานนท์ว่า
[๗๖๘] ดูก่อนท่านอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใดอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว มีพระประสงค์อย่างไร.
ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดีละๆ ท่านภัททะ ท่านช่างคิด ช่างเฉียบแหลม ช่างไต่ถามเหมาะๆ. ก็ท่านถามอย่างนี้หรือว่า ดูก่อนอานนท์ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว มีพระประสงค์อย่างไร.
ภ. อย่างนั้น ท่านผู้มีอายุ.
[๗๖๙] อา. ดูก่อนท่านภัททะ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใดอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพียงเพื่อเจริญสติปัฏฐาน ๔. สติปัฏฐาน ๔ เป็นไฉน. ภิกษุในธรรมวินัยนี้
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 461
ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย. ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่... ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่... ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย. ดูก่อนท่านภัททะ ศีลที่เป็นกุศลเหล่าใด อันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้แล้ว ศีลที่เป็นกุศลเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสแล้ว เพียงเพื่อเจริญสติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้.
จบสีลสูตรที่ ๑
สีลัฏฐิติวรรควรรณนาที่ ๓
อรรถกถาสีลสูตร
ในสีลสูตรที่ ๑ แห่งวรรคที่ ๓ คำว่า ศีลทั้งหลาย ได้แก่ ปาริสุทธศีล ๔ ข้อ. คำว่า อุมฺมงฺโค ได้แก่ เสาะหาปัญหา คือ แสวงหาปัญหา.
จบอรรถกถาสีลสูตรที่ ๑