ปรมัตถธรรมสังเขป
โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์
จิตตสังเขปบทที่ ๓ หน้า 107-108
ขณะที่กำลังฟังหรือศึกษาเรื่องของจิตนั้น ถ้าสติปัฎฐานระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฎขณะนั้นกำลังปฎิบัติ คืออบรมเจริญหนทางที่จะทำให้รู้แจ้งพระนิพพานซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ดับกิเลสได้ ขณะใด ที่สติไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้นถึงแม้ว่าเป็นกุศล ก็ไม่ใช่หนทางดับกิเลส
ซึ่งข้อความใน อัฎฐสาลินี จิตตุปปาทกัณฑ์ อธิบายคำว่า อาจยคามี ว่าอกุศล และกุศลที่ไม่ใช่มรรค ชื่อว่า อาจยคามี เพราะอรรถว่า ไปก่อธรรมที่เป็นเสมือนช่างอิฐก่อกำแพง ฉะนั้นขณะใดที่ไม่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นอกุศลใดๆ ก็สะสมก่อสร้างภพชาติเหมือนช่างอิฐที่ก่อกำแพงด้วยอิฐทีละแผ่นซ้อนทับกันจนกระทั่งเป็นกำแพง แต่ขณะใดที่สติระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ขณะนั้นเป็นมรรคเป็นอปจยคามี เพราะอรรถว่า ไม่ไปก่อธรรมที่เป็นไปนั้นแหละเหมือนบุรุษรื้ออิฐก่อทับกันไว้ ฉะนั้น ขณะนี้กำลังเป็นบุรุษรื้ออิฐหรือกำลังเป็นช่างก่ออิฐ
ขออนุโมทนาครับ
ถ้ายังเป็นปุถุชน เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวัน อกุศลจะก่อมากกว่าที่กุศลจะรื้อ แต่เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ก็จะค่อยๆ สั่งสมกำลังที่จะรื้อตัวอกุศลที่ก่อโดย ตรงได้ครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ