ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
กราบเรียนอาจารย์วิทยากร
ข้อความจากขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ หน้า 380
"ในกาลนั้น ประจวบเปนสมัยที่พระโพธิสัตวจะทํากาละพวกอันเตวาสิกทั้งหลาย พากันถามการบรรลุคุณพิเศษกะทานวา ขาแตทานอาจารย ทานไดคุณพิเศษชนิดไหน? ทานตอบวาไมมีแมแตนอย แลวไปเกิดในพรหมโลกชั้นอาภัสสระ เพราะวาพระโพธิสัตวทั้งหลาย แมถึงจะไดอรูปสมาบัติ ก็มิไดบังเกิดในอรูปภพ เปนสถานที่อันมิบังควร"
หน้าที่ 533 ก็แสดงว่า พระโพธิสัตว์ได้บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตนสมาบัติ แต่ท่านก็ไปเกิดในชั้นอาภัสสราพรหม และมีการเรียกพระโพธิสัตว์ว่าท้าวมหาพรหมด้วย
กระผมมีข้อสงสัยดังต่อไปนี้
1. ผู้บรรลุฌานระดับอรูปฌาน และฌานไม่เสื่อมแล้ว จะไปเกิดในภูมิของฌานสูงสุดที่ตนบรรลุใช่หรือไม่ เช่น ผู้ที่บรรลุอรูปฌานสมาบัติ แล้วฌานนั้นไม่เสื่อมแล้ว ปฏิสนธิจิตของผู้นั้นจะเป็นอรูปฌานวิบากจิตเท่านั้น หรือว่าเป็นรูปฌานวิบากจิตก็ได้ หรือว่า นี่เป็นข้อยกเว้นเฉพาะพระโพธิสัตว์เท่านั้นครับ
2. เพราะเหตุใดอรูปภพ ถึงเป็นภพที่ไม่บังควรแก่พระโพธิสัตว์
3. ภพที่ไม่บังควรของพระโพธิสัตว์มีภพอื่นใด อีกหรือไม่
4. คำว่า "ท้าวมหาพรหม" หมายถึงใคร มีไว้เรียกผู้ที่เกิดในรูปภพประเภทไหน หรือว่าพรหมทั้งหมด ก็เรียกเป็นท้าวมหาพรหมได้หรือว่าอย่างไร
ขอให้แสดงความละเอียดด้วย กราบอนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อ ๑ และ ๒ พิจารณาได้ว่า เป็นความเป็นธรรมดาของพระมหาสัตว์ (พระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญพระบารมีเพื่อตรัสรู้ถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) ที่เมื่อได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จะไม่เกิดในอรูปพรหมภูมิ ซึ่งมีอายุที่ยืนยาวมาก ดังนั้น พระมหาสัตว์ จะไม่เกิดในภพภูมิอย่างนั้น เพราะจะสูญเสียเวลาในการอบรมเจริญบารมี
ข้อ ๓. พระมหาสัตว์ หลังจากที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็เป็นพระโพธิสัตว์แน่นอนที่จะได้ตรัสรู้ (นิยตโพธิสัตว์) มีคุณสมบัติมากมาย ตามข้อความในพระไตรปิฎก ดังนี้ (รวมถึงภพภูมิที่ไม่ควรเกิดของพระมหาสัตว์ด้วย)
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ - หน้าที่ ๑๐๙
พระโพธิสัตว์ผู้มีอภินิหาร (ตั้งความปรารถนาถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) สำเร็จแล้วอย่างนี้แล ย่อมไม่ถึงอภัพฐานะ ๑๘ ประการ จริงอยู่ พระโพธิสัตว์นั้น จำเดิมแต่นั้น ย่อมไม่เป็นคนบอดแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนหนวกแต่กำเนิด ๑ ไม่เป็นคนบ้า ๑ ไม่เป็นคนใบ้ ๑ไม่เป็นคนแคระ ๑ ไม่เกิดในชนชาติมิลักขะ ๑ ไม่เกิดในท้องของนางทาสี ๑ ไม่เป็นคนนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๑ ไม่เป็นคนกลับเพศ ๑ ไม่ทำอนันตริยกรรมห้าอย่าง ๑ ไม่เป็นคนโรคเรื้อน ๑ อัตภาพสุดท้ายไม่เวียนมาในกำเนิดดิรัจฉาน ๑ ไม่มีอัตภาพใหญ่กว่าช้าง ๑ ไม่เกิดในขุปปิปาสิกเปรตและนิชฌามตัณหิกเปรต ๑ ไม่เกิดในจำพวกกาลกัญชิกาสูรทั้งหลาย ๑ ไม่เกิดในอเวจีนรก ๑ ไม่เกิดในโลกันตริกนรก ๑ ไม่เป็นมารในสวรรค์ชั้นกามาวจร ไม่เกิดในอสัญญีภพในรูปาวจรภูมิ ไม่เกิดในภพสุทธาวาส ไม่เกิดในอันติมภพ ไม่ก้าวไปสู่จักรวาลอื่น ๑
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ เล่ม ๙ ภาค ๒ - หน้าที่ ๖๙๑
พระนิยตโพธิสัตว์ ถึงพร้อมด้วยองค์ครบถ้วนอย่างนี้ แม้ท่องเที่ยวไปตลอดกาลยาวนานนับร้อยโกฏิกัปป์ ก็ไม่เกิดในอเวจี และในโลกันตริกนรกไม่เกิดเป็นนิชฌามตัณหิกเปรต ขุปปิปาสิกเปรต กาฬกัญชิกาสูร แม้เข้าถึงทุคติ ก็ไม่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เมื่อเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ไม่เป็นคนตาบอดแต่กำเนิด โสตก็ไม่วิกลบกพร่อง ไม่เป็นคนประเภทใบ้ ไม่เป็นสตรี ไม่เป็นคนสองเพศ และไม่เป็นบัณเฑาะก์. พระนิยตโพธิสัตว์ ไม่เป็นผู้นับเนื่องดังกล่าว พ้นจากอนันตริยกรรม มีโคจรบริสุทธิ์ในภพทั้งปวง ไม่เสพมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นว่ากรรมเป็นอันทำมีผล แม้อยู่ในสวรรค์ทั้งหลาย ก็ไม่เข้าถึงอสัญญีภพ ทั้งไม่มีเหตุที่ไปเกิดในเทพชั้นสุทธาวาส เป็นผู้น้อมไปในเนกขัมมะ เป็นสัตบุรุษ ไม่เกาะเกี่ยวในภพใหญ่น้อย บำเพ็ญแต่โลกัตถจริยาทั้งหลาย บำเพ็ญบารมีทั้งปวง
ข้อ ๔. ท้าวมหาพรหม ที่ปรากฏในพระไตรปิฎก หมายถึงพระพรหมตั้งแต่ ชั้นมหาพรหมา คือ ปฐมฌานชั้นที่ ๓ เป็นต้นไป บางแห่งกล่าวถึงท้าวมหาพรหม หมายถึง พรหมชั้นสุทธาวาส ครับ
... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
กราบอนุโมทนาครับ ได้แก้ข้อสงสัยหลายประการ เป็นคุณสมบัติของผู้ที่ตั้งความปรารถถึงความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งหนึ่งในข้อนั้นคือ ย่อมไม่เกิดในอันติมภพ หมายถึง ภพสูงสุดใน ๓ ภพ คือ อรูปภพนั่นเอง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ