วันนี้โทสมูลจิตอาจจะยังไม่เกิด เป็นได้ไหม หรือเกิดบ้างแล้วแต่ไม่ได้สังเกต เพราะไม่มาก ไม่รุนแรง เป็นแต่เพียงความไม่สบายใจ ไม่ชอบใจนิดๆ หน่อยๆ ทางตาบ้าง ทางหูบ้าง
ถ . วิธีแก้ คือ ละสิ่งที่อาจารย์บอกมาที่ว่า ไม่คิดถึงคนที่ทำให้เราไม่พอใจ คือ มีสติรู้ทันโทสะ ขณะนั้นเราละ ใช่ไหม คือ ขณะนั้นเรานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน นึกถึงสาเหตุว่าทำไมเกิดโทสะขึ้น และก็ละสาเหตุนั้น ใช่ไหม จึงจะหายได้
สุ. ผู้ที่ศึกษาปรมัตถธรรมทราบว่า ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน นี่เป็นของที่แน่นอนโดยขั้นของการฟัง โดยขั้นของการคิด แต่จะต้องพร้อมกับสติ ที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ มิฉะนั้นแล้วจะเป็นแต่เพียงขั้นความเข้าใจที่ว่าไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน แต่เมื่อไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน ขณะนั้นสภาพของจิตเป็นอะไร
ถ. ต้องรู้ชัดเลยว่าขณะนั้นเป็นอะไร
สุ. ใช่ ถ้าขณะนั้นเป็นสภาพที่ประทุษร้าย คือ ไม่พอใจ ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตนอื่นใดทั้งสิ้น แม้ในขณะนั้นที่จะยึดถือว่าเป็นเราก็ไม่มี แต่ว่ามีลักษณะของสภาพที่ประทุษร้ายเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น สภาพนั้นเองเป็นข้าศึกภายใน ไม่ใช่ศัตรูภายนอกอย่างที่เข้าใจว่า คนโน้น คนนี้ คนนั้นเป็นศัตรู หรือคนโน้น คนนี้ คนนั้นทำให้เป็นทุกข์เดือดร้อน แต่ตามความจริงคนอื่นทำอะไรไม่ได้ นอกจาก โทสเจตสิกเกิดขึ้นกระทำกิจนั้น
ถ. ขณะที่เรารู้ชัดว่า นั่นเป็นโทสะ ถ้าปัญญาเกิดขณะนั้นจะรู้ว่า ไม่ใช่ตัวตน ใช่ไหม คือ รู้ชัดแล้วว่า นี่คือโทสะแน่ๆ จึงเข้าใจได้ว่า ขณะนั้นไม่มีตัวตน
สุ. ใช่ จะทำให้เป็นผู้ที่ไม่เดือดร้อนด้วยการกระทำของคนอื่น และเป็นผู้ที่รู้หนทางที่จะละคลายกิเลสของตนเองเพราะรู้แน่ว่า กิเลสของตนเองไม่ได้อยู่ที่คนอื่น ไม่ใช่คนอื่นนำมาให้
ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง
พยาปาทะ เป็นลักษณะของโทสะ