ภิกษุ ก. สงสัยว่าตนเองต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่อีกใจหนึ่งคิดว่าไม่ เก็บความสงสัยนั้นจนถึงวันสึก ในใจก็หวาดหวั่นว่าถ้าสึกไปคงลำบากแน่ถ้าผิดจริง แต่ก็ตัดสินใจสึกเพราะลางานมาแค่นี้ หลังสึกคิดมากเรื่องกลัวติดสังฆาทิเสส กะว่าคงต้องอยู่ปริวาสแน่เพื่อความสบายใจ ๓ สัปดาห์ต่อมา ดันมีความคิดแย่ๆ ทำร้ายตัวเองอีกว่า กังวลว่าตอนกล่าวคำลาสิกขาจะมีจิตฟุ้งซ่านทำให้การสึกไม่สมบูรณ์ เฮ้อ! (ตอนลาสิกขาผมคิดว่าผมกล่าวเสียงดังฟังชัดต่อพระสงฆ์ ๕ รูป และคิดว่าผมเข้าใจคำที่กล่าวด้วยและรู้ตัวว่ากำลังกล่าวแต่จำความคิดที่ไม่แน่ใจว่าฟุ้งซ่านได้หรือเปล่า) ผมขอถามว่า
๑. ถ้าจะบอกลาสิกขาใหม่เพื่อความสบายใจจะได้ไหม
๒. ช่วงที่ผ่านมา หลังสึกที่ยังไม่เกิดความคิดแย่ๆ จะติดอาบัติไหมเนี่ย (ผมคิดว่าไม่ได้ ทำปราชิก ๔ ต้องนับวันปริวาสอย่างไร)
๑. ได้ครับ แต่ที่ท่านเล่ามาการลาสิกขาก็ใช้ได้แล้ว
๒. ควรทราบว่าคฤหัสถ์ไม่มีอาบัติ เมื่อลาสิกขาแล้วย่อมไม่มีอาบัติ แต่เมื่อบวชเป็นพระภิกษุอีก อาบัติที่เคยต้องในสมัยเป็นพระที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ยังคงมีเหมือนเดิมส่วนจำนวนวันปริวาส นับตามจำนวนวันที่ปกปิดสมัยเป็นพระเท่านั้น ช่วงที่เป็นฆราวาสไม่เกี่ยว แต่ถ้าไม่ได้ปกปิดไว้ ไม่ต้องอยู่ปริวาสครับ
ขออนุโมทนาครับ