ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ขึ้นชื่อว่า กิเลสซึ่งเป็นของเล็กน้อย
ไม่มีเลย
ถึงจะมีประมาณน้อย
บัญฑิตทั้งหลายก็พากับข่มเสียได้ทั้งนั้น
ดังนี้แล้ว จึงได้ทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย
เมื่อจบสัจจะ ภิกษุ 500 รูป ดำรงอยู่ในอรหัตตผล
พระภิกษุในครั้งนั้น ท่านเป็นผู้อบรมปัญญา อบรมบารมี เพื่อเห็นทุกข์ จนปัญญาประจักษ์แจ้งแทงตลอด รู้แจ้งอริยสัจธรรม เพื่อถึงที่สุดของพรหมจรรย์ คือ ความเป็นพระอรหันต์ครับ ฉะนั้น ปัญญาของท่านจะต้องเห็นโทษภัยของกิเลสแม้เพียงเล็กน้อยที่ฆราวาสอย่างเราไม่เห็นเพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่โตหรือหนักหนาอะไร แต่กิเลสแม้อุปมาเท่าปลายขนทรายที่เกิดแล้วสำหรับพระภิกษุผู้เห็นโทษภัยของกิเลสนั้น ย่อมปรากฏเหมือนมหาเมฆใหญ่ที่ก่อขึ้นเพื่อความหายนะสำหรับท่าน เป็นสิ่งที่ต้องเร่งรีบขัดเกลา ดุจคนที่ต้องรีบดับไฟที่กำลังไหม้ศีรษะของตนเองก่อนแทนที่จะไปทำกิจอื่นเพราะเมื่อกิเลสเกิดแล้วแม้เล็กน้อย แต่ไม่รู้และไม่เห็นโทษ ก็จะไม่มีการขัดเกลา เมื่อไม่มีการขัดเกลา กิเลสนั้นก็จะสะสมมากยิ่งขึ้น เพื่อความเป็นโทษเป็นภัยต่อๆ ไปอีกในสังสารวัฏฏ์ครับ ส่วนปุถุชนฆราวาสอย่างเรา ฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจ จนกว่าจะเป็นปัจจัยให้ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามปกติ เพื่อละความไม่รู้ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ส่วนการขัดเกลากิเลสส่วนที่ละเอียดขึ้นนั้น ต้องอาศัยปัญญาที่อบรมจนละเอียดขึ้นเช่นกัน โดยที่เป็นไปตามอัธยาศัยที่สะสมมาว่า จะเห็นประโยชน์ของการขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน โดยมีพื้นฐานอยู่บนความเข้าใจความเป็นอนัตตาของสภาพธรรมซึ่งเกิดเพราะเหตุปัจจัย เป็นความจริงที่ว่า ยิ่งปัญญาขัดเกลากิเลสได้เร็วขึ้น - มากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งปลอดภัยจากโทษที่เกิดจากกิเลสมากขึ้นเท่านั้นต้องอบรมปัญญาต่อไปจนกว่าจะเป็นผู้ปลอดภัยจากกิเลสคือความเห็นผิดจริงๆ จึงจะปลอดภัยจากกิเลสอื่นๆ ยิ่งขึ้นต่อไปได้ ความเข้าใจพระธรรม จะตามรักษาผู้ศึกษาธรรมและประพฤติตามธรรมที่ได้ศึกษาโดยไม่ประมาทแน่นอนครับ
วันนี้ผมขออนุญาตคุณหมอพิมพ์ความเห็นของตนเองยาวหน่อยครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณหมอด้วยครับ
ผมชอบพระธรรมนี้มากจริงๆ ครับ ช่วยให้ผมขัดเกลากิเลสเพี่มขึ้นได้ครับ
กิเลสเล็กน้อย ถึงจะมีประมาณน้อย จะทำให้ละเลยที่จะระวังกิเลส
ที่เพี่มขึ้นมากมายเกือบตลอดเวลา
เป็นอุปนิสัยต่อไป ในที่สุดกิเลสใหญ่โตก็อาจเกิดได้
หรือกิเลสที่เพียรอบรมเพื่อขัดเกลาให้ค่อยๆ ลดลงทีละน้อยๆ ก็เพี่มขึ้น
เม็ดทรายเล็กๆ ทำให้เป็นตึกใหญ่โตนะครับ
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณ chaiyut ครับ
"...ความเข้าใจพระธรรม
จะตามรักษาผู้ศึกษาธรรมและประพฤติตามธรรมที่ได้ศึกษาโดยไม่ประมาทแน่นอน..."ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณ chaiyut และคุณหมอ เป็นอย่างมาก ครับ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาคุณคำปั่นมากครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ไฟกองใหญ่ๆ ก็มาจากประกายไฟเล็กๆ เนี่ยแหละค่ะ
บัญฑิตย่อมไม่ประมาทแม้อกุศลเพียงเล็กน้อย..ผู้ไม่ใช่บัณฑิตได้อาศัยข้อความจากพระธรรมเป็นการเตือนไม่ให้ประมาท..เตือนบ่อยๆ เป็นประโยชน์ให้ระลึกได้บ่อยๆ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของคุณหมอคะ
ขอบคุณและอนุโมทนาทุกท่านครับ
ความคิดเห็นที่ 6 เยี่ยม
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาทุกท่านครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิต ทุกท่านค่ะ เตือนใจได้ดีมากค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ