ธรรมะทั้งหลายเป็นอนัตตา
โดย nattawan  20 ก.ค. 2567
หัวข้อหมายเลข 48159

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

🌻ทุกคำที่ไม่ใช่คำจริง เป็นการทำลายคำจริงของพระพุทธเจ้า ทำลายพระพุทธศาสนาถ้าไม่มีความเข้าใจถูก

🌺ปัญญารู้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ตาม ถ้าปัญญาได้อบรมแล้ว เจริญแล้ว สามารถรู้และเข้าใจได้ในทุกที่ทุกเวลา แล้วทำไมจึงไปทำลายคำของพระพุทธเจ้าที่ตรัสไว้ดีแล้วว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตา

🌸การฟังพระธรรม ถ้าจะให้เข้าใจธรรมะยิ่งขึ้นต้องเป็นผู้ตรง ฟังคำแต่ละคำให้พิจารณาไตร่ตรองและให้รู้ว่าเป็นคำจริงหรือคำไม่จริง จนกว่าที่ทุกอย่างจะเป็นอนัตตาจริงๆ จึงจะละความเห็นผิดได้ ความจริงนั้นเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องไปสำนักปฏิบัติที่ไหน เพราะไม่มีเหตุผลใดๆ เลย และไม่เข้าใจอะไรเลยทั้งสิ้น ไปปฏิบัติอะไร เพื่ออะไร ต้องเป็นผู้ตรง

🍁 ธรรมะทั้งหลายเป็นอนัตตา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

ถ้าใครกำลังตกอยู่ในอันตราย แล้วระลึกถึงพระธรรม จิตในขณะนั้นเป็นกุศล จะไม่หวาดกลัวหรือหวั่นเกรงภัย เพราะเหตุว่าถ้าสิ่งใดจะเกิด สิ่งนั้นก็ต้องเกิด แต่เกิดในขณะที่ผู้นั้นสามารถมีกุศลจิต และถ้าจะระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยด้วยความมั่นคง คือ เป็นผู้เชื่อในเรื่องของกรรม ในเรื่องของวิบาก และจิตในขณะนั้นผ่องใสเป็นกุศล ก็ต้องเป็นสิ่งที่ดี

แนวทางเจริญวิปัสสนา


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

วิปลาส ๑๒ ได้แก่ สัญญาวิปลาส ๑
จิตวิปลาส ๑ ทิฏฐิวิปลาส ๑

ในสภาพที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง

ในสภาพที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุข

ในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตนว่าเป็นตัวตน

ในสภาพที่ไม่งามว่างาม


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

สาระแท้จริงที่ควรบำเพ็ญ

ทุกๆ คนหวังความเจริญในทรัพย์ทั้งหลาย เช่น เรือกสวน ไร่นา บุตรภริยา โภคทรัพย์ แล้วแต่จะหวังอะไร เพราะยังไม่หมดหวัง แต่ความหวังก็ไม่ใช่สาระ แท้จริง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็คือ ตามมีตามได้ ตามกรรมที่กระทำไว้แล้ว ต้องมี ทั้งฝ่ายดี และไม่ดี ทั้งสุขทุกข์ แล้วทั้งหมดก็ไม่เหลือ เพราะสาระแท้จริง สิ่งที่ควร บำเพ็ญ คือ สุตะได้แก่ ศรัทธาที่ฟังธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

สาระแท้จริงที่ควรบำเพ็ญ [วัฑฒิสูตร]


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

กำลังจะไปไหน ...

ที่สุดแล้วทุกชีวิตก็ไม่พ้น "ความตาย"

ชีวิตนี้สั้นนัก ควรที่จะพิจารณาดำเนินชีวิตที่เป็นสาระด้วยความไม่ประมาท

กำลังจะไปไหน ...


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

สติจำปรารถนาในที่ทั้งปวง ไม่ใช่
เพียงแต่คำที่พูดกันบ่อยๆ แต่เป็นความจริงอย่างนั้น

เพราะฉะนั้น ถ้าสติเกิดขณะใดกั้นกระแสของอกุศลขณะนั้น เช่น กำลังเป็นโลภะ สนุกมาก การละเล่น เกมกีฬาต่างๆ เพลิดเพลินทั้งวัน ถ้าสติเกิดระลึกขึ้นได้ในขณะนั้นเพียงนิดเดียว ขณะนั้นก็กั้นกระแสที่จะรู้ว่า ลักษณะที่เป็นกุศล ที่เป็นสติปัฏฐาน ที่รู้ว่าลักษณะนั้นไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่บุคคล ทำให้ไร้ความกังวลได้มิฉะนั้นแล้วเวลาเป็นอกุศล บางคนก็ยิ่งเป็นอกุศลหนักขึ้นไปอีก เพราะเหตุว่าไม่ชอบอกุศล ไม่อยากจะเป็นอกุศลอย่างนี้เลย และก็รู้ตัวเองว่า มีอกุศลทั้งนั้น มากมาย กลุ้มใจ จะทำอย่างไร บางคนก็พยายามหาทางอื่นที่จะไม่เป็นอกุศล แต่ก็ไม่ใช่หนทางที่จะดับกิเลส แต่เวลาที่สติเกิด ไม่ว่าจะเป็นอกุศลก็เป็นแต่เพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่ง

แนวทางเจริญวิปัสสนา


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

วิตกซึ่งเป็นเจตสิกที่ทำกิจตรึก ทรงแสดงไว้ว่าเป็นเท้าของโลก เพราะว่าทำให้ก้าวไป แล้วแต่ว่าจะไปในทางดี หรือจะไปใน ทางไม่ดี

แนวทางเจริญวิปัสสนา


ความคิดเห็น 7    โดย nattawan  วันที่ 20 ก.ค. 2567

ทุกสิ่งที่ฟังไม่สูญหาย สะสมเพื่อชำระจิต ค่อยๆ ละคลายความไม่รู้ เพื่อที่จะค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริง


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 20 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ