ขอความกรุณาด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การให้ทานที่ดีและเหมาะสม และ สมควรกับแต่ละเพศ ย่อมเอื้ออำนวยที่จะทำให้ผู้รับ ไม่เกิดโทษกับผู้รับ และ ก็เป็นการทำบุญที่ประณีตด้วย ซึ่งประเด็นการถวายข้าวสาร หรือ อาหารแห้ง โอวัลตินซอง น้ำเต้าหู้ซอง กับพระภิกษุ ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำสำหรับคฤหัสถ์ แม้ว่า พระท่านจะสามารถรับของแห้งได้ ในบางคราว แม้ไม่ผิดพระวินัย แต่ผู้ที่ให้ย่อมเป็นผู้ที่จะฉลาด ที่พิจารณา และ ศึกษาพระวินัย ตามความเป็นจริงว่า ของที่ให้กับพระภิกษุมีอาหาร เป็นต้นนั้น ควรเป็นอาหารที่ปรุงสำเร็จ ด้วยเหตุผลที่ว่าพระภิกษุ มีข้อบัญญัติในการห้ามทำอาหารด้วยตนเอง มีการหุงต้ม เป็นต้น เพราะฉะนั้น เมื่อมีการให้ข้าวสาร ย่อมจะเอื้อที่จะทำให้ท่านผิดพระวินัยได้ ในข้อหุงต้มอาหารด้วยตนเอง
อีกประเด็นหนึ่ง พระวินัยบัญญัติ ห้ามภิกษุเก็บอาหาร ไว้ค้างคืน เป็นต้น เว้นจากการสะสม ซึ่งอาหารแห้ง ก็เอื้อต่อการต้องเก็บไว้ ทำให้ท่านจะต้องอาบัติ ผิดพระวินัยได้ ครับ
อีกประการหนึ่ง ประโยชน์ของการถวายอาหารพระภิกษุ ไม่ใช่เพียงนึกถึงตนเองที่จะต้องการได้บุญ แต่ควรนึกถึงประโยชน์ของผู้รับเป็นสำคัญ คือ พระภิกษุ สามารถจะฉันอาหารได้ทันที ไม่ใช่จะต้องเก็บอาหารไว้ หรือ ไปทำอาหารนั้นจึงฉันได้ เพราะฉะนั้นก็ควรถวายอาหารที่สามารถฉันได้ทันที ที่ปรุงสำเร็จแล้ว ครับ
และ โอวัลตินซอง น้ำเต้าหู้ซอง ก็ไม่ใช่น้ำปานะ ฉันหลังเที่ยง ไม่ได้ ครับ
การให้ทาน จึงควรเป็นผู้ฉลาด ที่จะพิจารณาเหตุผลในการให้ โดยมีการศึกษาพระวินัย ก็จะทำให้รักษาพระศาสนา เพราะ รักษาพระภิกษุท่านที่จะทำให้ท่านรักษาพระวินัยได้ถูกต้อง ครับ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 488
๗. ปฐมสัปปุริสสูตร
[๑๒๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัปปุริสทาน ๘ ประการนี้ ๘ ประการเป็นไฉน คือ ให้ของสะอาด ๑ ให้ของประณีต ๑ ให้ตามกาล ๑ ให้ของสมควร ๑ เลือกให้ ๑ ให้เนืองนิตย์ ๑ เมื่อให้จิตผ่องใส ๑ ให้แล้วดีใจ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัปปุริสทาน ๘ ประการนี้แล
สิ่งสำคัญที่สุด การเจริญกุศล ในเรื่องของการให้ทาน เพื่อขัดเกลากิเลสของตนเอง และเป็นประโยชน์ต่อผู้รับซึ่งของที่จะให้ก็ต้องเหมาะสมกับเพศของผู้รับด้วย บุคคลที่มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ย่อมสามารถแยกแยะ ได้ว่า สิ่งใดถูก สิ่งใดผิด แล้วน้อมที่จะกระทำเฉพาะในส่วนที่ถูกต้องและเว้นในสิ่งที่ผิด ที่ไม่สมควร ครับ ทั้งหมดนั้นก็ต้องมาจากการได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรมที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง คฤหัสถ์ผู้ฉลาดย่อมกระทำในสิ่งที่จะไม่เป็นเหตุให้พระภิกษุท่านต้องอาบัติ เพราะได้เข้าใจและกระทำอย่างถูกต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัย ครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในสมัยครั้งพุทธกาล อุบาสกอุบาสิกาทั้งหลาย ถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ด้วยอาหารที่ปรุงสำเร็จแล้ว พร้อมที่เมื่อพระภิกษุรับไปท่านฉันได้เลยไม่ต้องทำอะไรอีก แต่ถ้าเป็นของที่จะต้องนำไปปรุงหรือจัดทำใหม่ เช่น ข้าวสาร ถั่ว งา ถ้าเป็นสมัยนี้ ก็จำพวกอาหารกระป๋อง กาแฟซอง โอวัลตินซอง น้ำเต้าหู้ซอง เป็นต้น ก็ควรนำไปไว้ที่โรงครัว เพื่อคฤหัสถ์จะได้จัดทำถวายท่านในกาลเวลาที่ถูกต้องตามพระวินัย เป็นการป้องกันอาบัติหลายอย่าง เช่น สะสมอาหาร เป็นต้น ครับ
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาด้วยครัับ
ถ้าคฤหัสถ์ศึกษาพระธรรมวินัยด้วย ก็จะช่วยไม่ให้ท่านต้องผิดพระวินัยค่ะ
ขออนุโมทนาครับ