[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 146
บทว่า เมตฺตจิตฺตํ ความว่า ชื่อว่า เมตตา เพราะอรรถว่า รักใคร่ ความว่า ชื่อว่า เมตตา เพราะอรรถว่า รักใคร่อธิบายว่า ผูกเยื่อใย. ชื่อว่า เมตตา เพราะความเจริญเป็นไปในมิตร หรือความเจริญนั่นเป็นไปต่อมิตร. พึงทราบวินิจฉัย เมตตาโดยลักษณะเป็นต้นต่อไปนี้ เมตตามีอันเป็นไปในอาการให้ประโยชน์เกื้อกูลเป็นลักษณะ มีการนำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเป็นรส มีการปลดเปลื้องความอาฆาตเป็นเครื่องปรากฏ มีการแสดงความพอใจของสัตว์ทั้งหลายเป็นปทัฏฐาน. ความสงบพยาบาทเป็นสมบัติของเมตตานั่น ความมีเสน่หาเป็นวิบัติของเมตตา. ชื่อว่า เมตตาจิต เพราะจิตมีเมตตา.
บุคคลประกอบด้วยธรรมชาตินั้นแล้ว ย่อมบันเทิง หรือธรรมชาติใด ย่อมบันเทิงเอง, หรือว่า สักว่าความบันเทิงนั้น ฉะนั้น ชื่อว่า มุทิตา ธรรมชาติใด ย่อมเพ่งด้วยการประหาณ ความพิบัติ โดยนัยเป็นต้นว่า สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นผู้มีเวรหามิได้เถิด และด้วยการเข้าถึงความเป็นกลาง ฉะนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า อุเบกขา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ยินดีในกุศลจิตค่ะ