* ทุกสิ่งทุกอย่างในขณะนี้ ปรากฏอย่างไร ตรงตามความเป็นจริงหรือไม่ ถ้าไม่เข้าใจสิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงขณะนี้ ก็จะไม่สามารถตอบได้เลย
* ถ้าไม่เข้าใจพระธรรม ก็จะคิดว่าสิ่งที่ปรากฏอยู่ขณะนี้ ก็คือ คน สัตว์ ต้นไม้ วัตถุสิ่งของต่างๆ และยึดถือว่าสิ่งเหล่านั้นมีจริงๆ เพราะมีความจำผิดว่าเป็นกลุ่มก้อน (ฆนสัญญา) เป็นตัวตน มาแสนนานอย่างมั่นคง
* เมื่อมีความจำผิด ความเห็นผิด เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริงของสิ่งที่ปรากฏ ก็ย่อมหลงติด ยึดถือว่ามีตัวตน คน สัตว์ สิ่งต่างๆ และไม่อาจจะหลุดพ้นจากความยึดถือเหล่านั้นไปได้เลย
* ตามความเป็นจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงก็คือ สิ่งที่ปรากฏในขณะนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่กลุ่มก้อน ตัวตน ที่เป็นคน สัตว์ ต้นไม้ วัตถุสิ่งของต่างๆ แต่เป็นสภาพธรรมแต่ละหนึ่งที่เพียงปรากฏ ซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปในทุกๆ ขณะ ไม่ใช่ตัวตนใดๆ เลย
* การฟังพระธรรมที่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ที่จะนำไปสู่การเจริญขึ้นของปัญญาจนประจักษ์ชัดในสิ่งที่กำลังปรากฏแต่ละหนึ่งตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่สัตว์ คน ตัวตน ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะละคลาย และพ้นจากความหลงยึดถือในความเป็นตัวตนได้จริงๆ
"สิ่งใดที่บุคคลเห็นอยู่ สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นแล้ว
สิ่งใดที่บุคคลเห็นแล้ว สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาเห็นอยู่
เมื่อไม่เห็น (ตามความเป็นจริง) จึงหลงติดอยู่ เมื่อ (หลง) ติดอยู่ ย่อมไม่หลุดพ้น"
(อรรถกถาสติปัฏฐานสูตร มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์)
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ตามความเป็นจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงก็คือ สิ่งที่ปรากฏในขณะนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่กลุ่มก้อน ตัวตน ที่เป็นคน สัตว์ ต้นไม้ วัตถุสิ่งของต่างๆ แต่เป็นสภาพธรรมแต่ละหนึ่งที่เพียงปรากฏ ซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปในทุกๆ ขณะ ไม่ใช่ตัวตนใดๆ เลย
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขออนุโมทนาครับ
สาธุค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ