ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ควรเริ่มให้อภัยคนที่เราไม่ชอบเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้อภัยทาน (การให้อภัย) ยังให้ ไม่ได้ แล้วจะเจริญธรรมได้อย่างไร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นปรากฏเป็นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทุกวันทุกขณะโดยละเอียด เพื่อให้เห็นโทษของอกุศลธรรมและภัยของสังสารวัฏฏ์ ซึ่งเมื่อยังไม่เห็นโทษภัยของสังสารวัฏฏ์ ก็ย่อมไม่เพียรอบรม เจริญวิปัสสนาซึ่งเป็นปัญญาที่ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงจนดับกิเลสได้ ผู้อบรมเจริญปัญญาต้องเป็นผู้ที่ตรงที่จะรู้ว่ายังมีกิเลสครบทุกอย่างและยังไม่ต้องดับโลภะให้หมดก่อน เนื่องจากผู้ที่เป็นปุถุชนจะข้ามไปสู่ความเป็นพระอรหันต์โดยทันทีไม่ได้ เพราะต้องดับโลภะที่เกิดร่วมกับสักกายทิฏฐิที่ยึดถือสภาพธรรมที่เกิดร่วมกันเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล ให้หมดสิ้น เป็นสมุจเฉทก่อน กิเลสอื่นๆ จึงจะดับหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทต่อไปตามลำดับ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นปรากฏเป็นไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทุกวันทุกขณะโดยละเอียด
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สิ่งที่ปุถุชนส่วนใหญ่ไม่สนใจใฝ่รู้ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา คิดว่าตัวเองรู้แล้วและไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อการทำมาหากิน จึงไม่ฟัง ไม่ศึกษา หันหลังให้พระศาสนา มัวแต่แสวงหากิจการงานอื่นด้วยความไม่รู้ในอำนาจของกิเลส กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่แสวงหานั้นว่าจะเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง ก็มักจะสายเกินไปและก็เกิดปัญหาตามมามากมาย เพราะการที่เคยคิดว่าพระพุทธเจ้าสอนแต่เรื่อง "ธรรมดา" คนบางจำพวกจึงไม่คิดที่จะแก้ไขตนเอง ใช้ชีวิตไปกับการเพ่งโทษผู้อื่น เพราะเห็นง่ายกว่า คิดหาทางแก้ไขให้บุคคลอื่นเป็นคนดี ลืมตัวเองว่า ตนก็ยังไม่ใช่คนที่ดีพอ จึงประสบความสำเร็จแต่เพียงในความคิดและคนที่ช่วยนั้นก็มียังกิเลสหนา เขายังพร้อมที่จะทำความชั่วได้อีกถ้ามีเหตุปัจจัย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "พุทธศาสนิกชน" ควรศึกษาในพระปัญญาคุณของพระผู้มีพระ-ภาคว่า
๑. เรื่อง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ได้ทรงตรัสรู้นั้น ธรรมดาอย่างที่เราเคยคิดแน่แล้วหรือ
๒. เหตุใดผู้คนจึงกราบไหว้ด้วยศรัทธาในคำสอนของพระพุทธองค์ จากสิ่งที่เราเคยคิดว่าเป็นแค่เรื่อง "ธรรมดา" นั้น
๓. ทุกวันนี้เรายังทะเลาะกับคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่หรือเปล่า
ขออนุโมทนาครับ
คนที่รักษาศีล ๘ ถ้าประกอบด้วยปัญญาประเสริฐค่ะ
ขออนุโมทนา
ยินดีในกุศลจิตค่ะ