ฟังเพื่อเจริญปัญญา ละจากอวิชชา
โดย ธรรมทัศนะ  30 พ.ย. 2549
หัวข้อหมายเลข 2414

สำหรับผม ผมขอแนะนำว่า ... เป็นธรรมชาติของคนทุกคน ที่เริ่มศึกษาสนใจและเริ่มเข้าใจในคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า มีค่ามากมายและน่าจะเป็นหนทางที่จะลด "ปัญหา" ของเราได้ เมื่อถึงจุดนี้ เราจะอยากจะได้ อยากจะรู้อยากจะไปให้ถึง เรียกว่า อยากจะได้ทางตรง ทางลัด ผมเองก็เป็นเช่นนั้นดิ้นรน ค้นหา

พระพุทธองค์ ผู้เป็นมหาบุรุษของโลก พระองค์ใช้เวลา ๔ อสงไขยแสนกัปนานเท่าใดก็นับไม่ได้ กว่าจะประจักษ์เรียกว่า ตรัสรู้ และแสดงธรรมให้เราได้รู้ ค่อยๆ เรียนรู้ ฟัง อ่าน และทำความเข้าใจอยู่บนความจริง ด้วยอาการที่ไม่ได้ "อยาก" แต่เพื่อเจริญปัญญา เพื่อ "ละ" คำว่า "ละ" แปลว่า ละจาก"อวิชชา" อวิชชา คือ ความไม่รู้ (ทิฎฐิ คือ ความเห็นผิด เข้าใจผิดว่าเป็นตัวตน คน สัตว์สิ่งของ และถือเอาว่าเป็น "เรา")

ดังนั้นสู้ตั้งหน้าตั้งตา เรียนรู้ ฟัง อ่าน และค่อยๆ สังเกต "ธรรมะ" ที่ปรากฏแล้วทุกอย่าง แล้วค่อยๆ กระจ่างๆ ทีละนิดๆ



ความคิดเห็น 1    โดย pornchai.s  วันที่ 1 ธ.ค. 2549

ถ้าคำสอนใดเป็นไปเพื่อความติดข้อง ไม่ได้เป็นไปเพื่อ " ละ " ไม่ใช่คำสอนของ พุทธองค์


ความคิดเห็น 2    โดย เต้ย  วันที่ 1 ธ.ค. 2549

...เชิญคลิกอ่าน...

ศาสดาของท่านภูมิชะ [ภูมิชสูตร]


ความคิดเห็น 3    โดย yupa  วันที่ 6 ธ.ค. 2549
เมื่อวันที่ 5 ธันวา ได้มีโอกาสร่วมฟังการสนทนาธรรม ที่รพ.พระมงกุฎ ท่านอาจารย์สุจินต์ ได้พูดประโยคหนึ่งที่ฟังแล้ว ต้องทบทวนอีกหลายๆ ครั้ง คือ ธรรม ไม่ใช่เรื่องของการตัดสิน หรือ ถูก ผิด แต่เป็นเรื่องของความเข้าใจ ฟังประโยค นี้แล้ว ก็สงบขึ้นทันที ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่จะไปตัดสินการกระทำของใครทั้งนั้น มันเป็นเรื่องของสภาพธรรม ที่เกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัย

ความคิดเห็น 4    โดย pamali  วันที่ 29 ก.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 27 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ