แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติความสำรวมในทวาร ๖ ไว้ว่า ความสำรวม จักษุ โสตะ ฆานะ ชิวหา กาย วาจา ใจ เป็นความดี ความสำรวม ในทวารทั้งปวงเป็นความดี
ภิกษุสำรวม ในทวารทั้งปวง ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
ศีล และ ปาฏิโมกข์ศีล เป็นการระวัง หรือสำรวมทางกาย วาจาเท่านั้น ไม่ถึงทางใจ ดับกิเลสไม่ได้ ดังนั้น อินทรียสังวร คือความสำรวม ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงสำคัญและเป็นความดี สามารถดับกิเลสได้ และยังช่วยให้ ศีลและปาฏิโมกขศีล เกิดและบริบูรณ์ดีขึ้น
การสำรวมอินทรีย์ คือการอบรมเจริญสติปัญญา ให้เข้าใจสภาพธรรมที่ปรากฏในชีวิตประจำวันทุกวันนั่นเอง เพราะปรมัตถธรรมเกิดตลอดเวลาทางทวารทั้ง ๖ นี่เองเช่น ความยินดี พอใจ ติดข้อง ต้องการ ในรูปที่ปรากฏทางตา ถ้าไม่สำรวมทางตา ก็ไม่รู้ปรมัตถธรรมทางตา เกิดปัญญาเพื่อละคลาย โลภะในรูปารมณ์ได้ ทางทวารอื่นๆ ก็ทำนองเดียวกัน และสำรวมทางทวารทั้ง ๖ เนืองๆ บ่อยๆ เพราะปัญญาต้องรู้ทั่วนะครับ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงบัญญัติไว้ว่า ความสำรวมในทวารทั้งปวงเป็นความดี ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
ขออนุโมทนา
ทั้งหมดเป็นเรื่องของ "ปัญญา"
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ