ทุกคำในพระไตรปิฎกควรเข้าใจจริงๆ ให้ถูกต้อง ทุกคำในพระไตรปิฎกเป็นพระธรรม
ที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญบารมีมา ๔ อสงไขย แสนกัปป์ เพื่อตรัสรู้ความจริงซึ่งพระ-อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พรรษา ได้รวบรวมอยู่ในพระไตรปิฎก
ควรฟังพระธรรม ศึกษาและพิจารณาโดยแยบคายเพื่อจะได้น้อมประพฤติปฎิบัติตามให้ถูกต้อง พระธรรมเป็นของลึกซึ้ง เข้าใจยากจึงไม่ควรประมาทปล่อยเวลาให้
ให้ล่วงไป เวลามีน้อยที่จะเข้าใจพระธรรม
เชิญคลิกอ่านได้ที่...
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 45
เทพธิดา. พูดอะไร นาย, พวกมนุษย์ประมาทเป็นนิตย์ ประหนึ่งถือเอาอายุตั้งอสงไขยเกิดแล้ว ประหนึ่งว่าไม่แก่ไม่ตาย.
ความสังเวชเป็นอันมาก ได้เกิดขึ้นแก่มาลาภารีเทพบุตรว่า" ทราบว่า พวกมนุษย์ถือเอาอายุประมาณ ๑๐๐ ปีเกิดแล้ว ประมาท
นอนหลับอยู่. เมื่อไรหนอ? จึงจักพ้นจากทุกข์ได้."
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ประโยชน์ของการศึกษาธรรมคือการน้อมประพฤติปฏิบัติตาม อันเป็นไปเพื่อขัดเกลา
กิเลสเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญหรือสิ่งอื่นใดเลย แต่เป็นไปเพื่อขัดเกลา
กิเลส เจริญกุศลทุกๆ ประการ น้อมประพฤติปฏิบัติตามด้วยความจริงใจ พระธรรมที่พระ-
พุทธองค์ทรงแสดงเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลกับสัตว์โลก ผู้ที่จะได้สาระจากพระ-
ธรรมจึงไม่ใช่แค่เพียงฟังเพื่อรู้มาก จำได้มากหรือเพียงเข้าใจนั้นแต่เป็นไปในการน้อม
ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงจึงจะได้สาระจากพระธรรมครับ
พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมว่าพวกเธอไม่ควรติดตามเราเพื่อฟังพระธรรมเท่านั้น
แต่พวกเธอจงติดตามเราเพื่อให้ได้กถาวัตถุ 10 คือเป็นไปเพื่อการน้อมประพฤติปฏิบัติ
ตนคือเป็นผู้มักน้อย สันโดษสงัด ไม่คลุกคลี ปรารภความเพียร เจริญศีล สมาธิ ปัญญา
เป็นต้น ผู้ที่น้อมประพฤติตามพระธรรมคือผู้ไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการครับ เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
ติดตามพระองค์เพื่อประพฤติธรรม [มหาสุญญตสูตร]
สำคัญที่ ...น้อมประพฤติปฏิบัติตาม
00526 สำคัญที่ปฏิบัติตาม
หากว่า นรชนกล่าวพระพุทธพจน์อันมีประโยชน์เกื้อกูล
แม้มาก (แต่) เป็นผู้ประมาทแล้วไม่ทำ (ตาม) พระพุทธพจน์
นั้นไซร้, เขาย่อมไม่เป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล เหมือน
คนเลี้ยงโคนับโคทั้งหลายของชนเหล่าอื่น ย่อมเป็นผู้ไม่มีส่วนแห่งปัญจโครสฉะนั้น, หากว่านรชนกล่าวพระพุทธพจน์
อันมีประโยชน์เกื้อกูล แม้น้อย (แต่) เป็นผู้มีปกติประพฤติ
ธรรมสมควรแก่ธรรมไซร้, เขาละราคะ โทสะ และโมหะแล้ว
รู้ชอบ มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว หมดความยึดถือในโลกนี้หรือในโลกหน้า, เขาย่อมเป็นผู้มีส่วนแห่งสามัญผล."
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 213
ธรรมเตือนใจวันที่ : 1 พ.ค. 2552
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูกไปตามลำดับ โดยมีจุดประสงค์ที่ถูกต้องในการศึกษา คือ เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ไม่ใช่-เพื่ออย่างอื่น นั่นย่อมเป็นสิ่งที่มีค่าเป็นอย่างมาก เพราะอาศัยพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เท่านั้น จึงจะสามารถละคลายความไม่รู้ และสามารถที่จะดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้ในที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องที่ไกลมาก ที่สำคัญคือเริ่มฟัง เริ่มสะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อยเป็นปกติในชีวิตประจำวัน, ชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะจากโลกนี้ไปเมื่อไหร่ และ ไม่มีใครสามารถทราบได้ว่าเมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว จะไปเกิดในภพภูมิใด ถ้าหากไปเกิดในอบายภูมิ ย่อมหมดโอกาสที่จะได้ฟังพระธรรม ไม่ได้ศึกษาพระธรรม นั่นหมายถึงว่า ไม่มีโอกาสที่จะได้อบรมเจริญปัญญาเพื่อรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้เลย เพราะฉะนั้นแล้ว ในแต่ละวันจึงเป็นโอกาสที่ดี ที่จะดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างมีค่ามากที่สุด ด้วยการฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงน้อมรับพระโอวาทโดยความเคารพ ประพฤติปฏิบัติตามเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองจึงจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมอย่างแท้จริง และชีวิตก็ไม่สูญเปล่า ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
เวลา...เหลือน้อยแล้ว.!
เวลาเหลือน้อยแล้วจริงๆ ด้วยค่ะ
ขออนุโมทนา
ไม่ควรประมาทแม้เพียงช่วงลมหายใจเข้าหรือลมหายใจออกครับ
การฟังพระธรรมแม้ไม่เข้าใจ แต่มีจิตเลื่อมใสและเห็นประโยชน์ของการฟังจิตผ่องใสเป็นมหากุศล
....หากฟังแล้วเข้าใจ..เป็นการสะสมปัญญาให้เกิดการน้อมไปปฏิบัติตาม...ละกิเลสได้ตามลำดับ....เวลาของชีวิต.น้อย...?ข้อความจากพระไตรปิฏก...ชีวิตมนุษย์น้อย คือเล็กน้อย นิดหน่อย เป็นไปชั่วขณะ เป็นไปพลัน เป็นไปชั่วกาลบัดเดี๋ยวเดียว ตั้งอยู่ไม่ช้า ดำรงอยู่ไม่นาน. สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า :- ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อายุของพวกมนุษย์นี้น้อยจำต้องไปสู่ปรโลก มนุษย์ทั้งหลายจำต้องประสบความตาย ตามที่รู้กันอยู่แล้วควรทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ไม่มีมนุษย์ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ ใดย่อมเป็นอยู่นาน ผู้นั้นก็เป็นอยู่ได้เพียง ๑๐๐ ปี หรือที่เกินกว่า ๑๐๐ ปี ก็มีน้อย. พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า :- อายุของพวกมนุษย์น้อย บุรุษผู้ใคร่ความดี พึงดู หมิ่นอายุที่น้อยนี้ พึงรีบประพฤติให้เหมือนคนถูกไฟไหม้ ศีรษะ ฉะนั้น เพราะความตายจะไม่มาถึง มิได้มี วันคืน ย่อมล่วงเลยไปชีวิตก็กระชั้นเข้าไปสู่ความตายอายุของสัตว์ ทั้งหลายย่อมสิ้นไปเหมือนน้ำในแม่น้ำน้อย ย่อมสิ้นไป ฉะนั้น. เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม....ชีวิตนี้ว่าเป็นของน้อย
ขออนุโมทนา
สาธุ