ถ้าหากได้เคยพลาดพลั้งทำกรรมหนักไว้ ปัจจุบันต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เพราะชีวิตปัจจุบันนี้ไม่มีความสุขเลยครับ ทำอย่างไรดีครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม เป็นสิ่งที่มีจริง เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ถูกคือถูก ผิดคือผิด ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้
ชีวิตของแต่ละบุคคลที่ดำเนินไปในแต่ละวันๆ นั้น เป็นไปตามการสะสมอย่างแท้จริง ซึ่งมีทั้งดี และไม่ดี ที่กล่าวว่า ดี ก็เพราะธรรมฝ่ายดีเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ เช่น ศรัทธา (ความผ่องใสแห่งจิต) หิริ (ความละอายต่อบาป) โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อบาป) อโลภะ (ความไม่ติดข้อง) อโทสะ (ความไม่โกรธ) เป็นต้น ส่วนที่กล่าวว่าไม่ดี ก็เพราะอกุศลธรรม มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่นั่นเอง ซึ่งทั้งหมดก็เป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนเลย
สำหรับสิ่งที่ไม่ดี ที่เป็นอกุศลกรรม ที่เกิดแล้วเป็นไปแล้ว เป็นการกระทำที่เป็นโทษ ตรงกันข้ามกับกรรมที่เป็นกุศลอย่างสิ้นเชิง เมื่อได้กระทำอกุศลกรรมไปแล้ว ใครก็ไม่สามารถย้อนกลับไปตัดหรือลบล้าง ไม่ให้เป็นความไม่ดีได้ เพราะเป็นธรรมฝ่ายไม่ดีเกิดขึ้นเป็นไปแล้ว ความไม่ดี ก็ต้องเป็นความไม่ดี แต่สำหรับผู้ที่เห็นโทษของความไม่ดีแล้ว ก็สามารถขัดเกลา เริ่มต้นใหม่ สะสมในสิ่งที่ดีต่อไปได้ ในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น เมื่อมีผู้ที่ทำผิดในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า และผู้นั้นเกิดจิตสำนึก คือเห็นโทษนั้นด้วยใจจริง ด้วยกุศลธรรม พระพุทธเจ้าย่อมทรงทราบถึง ความเห็นโทษตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่เห็นโทษจริงๆ พระองค์ก็ย่อมตรัสเตือน และ ทรงยกโทษนั้น คือ โทษที่ ผู้นั้นทำไม่ดี เพื่อประโยชน์ให้ผู้ที่ทำผิดสำรวมระวังต่อไป
ดังนั้น ทุกสิ่งไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ควรเริ่มต้นใหม่ด้วยการฟัง ศึกษาพระธรรม
ครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรมดาของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสนั้น อกุศลย่อมเกิดขึ้นมาก มักจะไหลไป เป็นไปด้วยอำนาจของอกุศลเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้งบางคราวก็ล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรมทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน ซึ่งอาจจะมีได้ตามการสะสม ทั้งหมดทั้งปวง ก็เป็นธรรม เป็นความเป็นไปของจิต และเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) เท่านั้น ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน
สิ่งที่ควรพิจารณา คือ ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิด ย่อมมีแน่นอนสำหรับบุคคลผู้ที่กระทำความผิด จะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำคัญที่ว่า เห็นโทษแล้ว ตั้งต้นใหม่หรือไม่? ความเข้าใจพระธรรม เท่านั้น ที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับทุกคน ความเข้าใจพระธรรมจะประคับประคองให้ชีวิตดำเนินไปในทางที่ถูกที่ควรยิ่งขึ้น ไม่ขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณครับ
ธรรมะลึกซึ้งมาก และก็ยากด้วย ขณะโกรธๆ บอกว่าหยุดโกรธซะ หากมีการอบรมมาน้อย ยังไม่เป็นพระอริยบุคคล ก็อกุศลมีกำลัง ก็โกรธต่อไป พระอริยบุคคลก็เป็นลำดับขั้นไป ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เป็นพระอริยบุคคล ไม่ใช่คิดเอาว่าตนเป็น เห็นว่าตนนุ่งห่มผ้าเหลืองแล้วเที่ยวบอกว่าตนคือสังฆังหรือพระอริยบุคคล ผิดเป็นผิด จะพาตนไปในทางที่ผิด นี่แหละน่าสงสาร เหตุต้องตรงกับผล เพราะต้องได้รับผลของกรรมแน่นอน ไม่ต้องไปแช่งหรือด่าเขา จิตก็ไม่เศร้าหมอง แต่ไม่เคยประพฤติได้ซักหน
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
ปฏิบัติตัวเป็นปกติที่รักษาศีล 5 เริ่มต้นใหม่ด้วยการทำดีและไม่ขาดการฟังธรรม เพราะพระธรรมทำให้เปลี่ยนจากคนไม่ดีเป็นคนดีได้ และขณะที่กุศลเกิดขณะนั้น จิตก็ผ่องใส ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ