เมตตา ๒๐ - พรหมวิหาร ๔ ไม่ได้มีแต่ เมตตา - อาฆาตวินยสูตร
โดย chaiyut  12 ต.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 5094

ควรอบรมเจริญพรหมวิหารทั้ง ๔ โดยไม่กะเกณฑ์ให้เป็น "ตัวตน"

พรหมวิหาร ๔ เป็นคุณธรรมที่เกื้อหนุนกรรมดีทั้งหลายให้บริบูรณ์ แม้ในการให้ทานก็ย่อมจะไม่แบ่งแยกให้เฉพาะบางพวก ซึ่งถ้าไม่ใช่ผู้ที่ประกอบด้วยพรหมวิหารก็อาจจะแบ่งให้เฉพาะบางพวกเท่านั้น นอกจากนั้นยังเป็นธรรมที่ยังศีลให้บริบูรณ์ สามารถที่จะอภัยให้ทุกอย่างและทำกุศลโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ เมตตาย่อมเป็นปัจจัยให้เกิดพรหมวิหารอื่น คือ กรุณา มุทิตาและอุเบกขา เมื่อมีปัจจัยและปทัฏฐานที่จะทำให้เกิดสภาพธรรมนั้นๆ ข้อความในอังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต จตุตถปัณณาสก์ อาฆาตวรรคที่ ๒ อาฆาตวินยสูตรที่ ๑

[๑๖๑] พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่าควรอบรมเจริญพรหมวิหารทั้ง ๔ ไม่จำเป็นต้องเจริญแต่เฉพาะเมตตาอย่างเดียวไปมากๆ เสียก่อน แล้วจึงจะเจริญกรุณา มุทิตาและอุเบกขาในภายหลัง พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่ระงับความอาฆาตซึ่งเกิดขึ้นแก่ภิกษุทั้งหลายโดยประการทั้งปวง ๕ ประการนี้ ๕ ประการเป็นไฉน คือ

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญเมตตาในบุคคลนั้น ๑

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญกรุณาในบุคคลนั้น ๑

ความอาฆาตพึงบังเกิดในบุคคลใด พึงเจริญอุเบกขาในบุคคลนั้น ๑

ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงถึงการไม่นึกใฝ่ใจในบุคคลนั้น ๑

ความอาฆาตพึงบังเกิดในบุคคลใด พึงนึกถึง ความเป็นผู้มีกรรมเป็นของของตนให้มั่นในบุคคลนั้นว่า ท่านผู้นี้มีกรรมเป็นของของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักเป็นทายาท (ผู้รับผล) ของกรรมนั้น ดังนี้ ๑

ภิกษุพึงระงับความอาฆาตในบุคคลนั้นด้วยประการฉะนี้

จบสูตรที่ ๑

..จากหนังสือ "เมตตา" เปิดอ่าน --> คลิกที่นี่



ความคิดเห็น 1    โดย แล้วเจอกันนะ  วันที่ 12 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 20 ก.พ. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ