การขนสัตว์ให้ข้ามพ้นวัฏสงสารโดยพระโพธิสัตว์
โดย Book  28 ม.ค. 2559
หัวข้อหมายเลข 27403

ถ้าจุดมุ่งหมายของพระโพธิสัตว์คือการได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อที่จะช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ข้ามพ้นวัฏสงสารให้ถึงนิพพาน แต่ดวงจิตที่ยังเวียนวายตายเกิดใน 31 ภพภูมินั้นมีมากเหลือเกิน อีกทั้งยังมีดวงจิตที่เข้ามาในสังสารวัฏฏ์นี้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ต่อให้มีพระโพธิสัตว์หรือพระพุทธเจ้ามากเพียงใดก็ไม่สามารถจะพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากภพภูมิทั้ง31นั้นใช่หรือไม่ และจะมีทางเป็นไปได้หรือไม่ที่จะหยุดดวงจิตใหม่ไม่ให้เขามาในสงสารวัฏนี้ และนำพาทุกๆ ดวงจิตที่อยู่ในสงสารวัฏนี้แล้วให้ถึงนิพพานในที่สุด

เรียนท่านผู้รู้ โปรดชี้แจงให้กระจ่างด้วยเถิด



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 28 ม.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สังสารวัฏฏ์ คือ การเกิดขึ้นเป็นไปของจิต เจตสิก ที่สืบต่อไม่ขาดสาย ซึ่งตราบใดที่ยังมีเชื้อ คือ กิเลส มีความไม่รู้ เป็นต้น ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้มีการเกิดขึ้นของจิต เจตสิก ที่สมมติว่าเป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้น จิต เจตสิก ที่ไมได้สะสมความเข้าใจพระธรรม ไม่ได้สะสม วิชชา ปัญญา แม้พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้กี่พระองค์ ก็ไม่ได้สนใจ ใส่ใจ ก็ไม่เกิดปัญญา ความเห็นถูก เพราะ ความเห็นถูกนั่นเอง จะเป็นเหตุให้ดับ อวิชชา โลภะและกิเลสอื่นๆ ที่เป็นเหตุให้เกิดจิต เจตสิก เกิดการเวียนว่ายตายเกิด เมื่อไม่เกิดปัญญา ก็ย่อมเป็นธรรมดา ที่จะต้องเวียนว่ายตายเกิด คือ อยู่ในสังสารวัฏฏ์ที่เป็นการเกิดของจิต เจตสิกอยู่ร่ำไป เพราะ พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ผู้ที่มีความเห็นผิด ดิ่ง ย่อมเป็นผู้ที่เป็นตอของวัฏฏะ คือ ไม่สามารถที่จะออกจากสังสารวัฏฏ์ได้เลย เพราะ มีความเห็นผิดที่ผิดที่ตรงกันข้ามกับความเห็นถูก แม้พระพุทธเจ้ากี่พระองค์ก็ไม่สามารถที่จะช่วยบุคคลนั้นได้ นี่แสดงถึงความเป็นปกติธรรมของธาตุ คือ จิต เจตสิกที่สะสมมาแตกต่างกันไป ไม่มีใครที่จะช่วยใครได้ทั้งหมด เพราะความแตกต่างกันของธาตุ ครับ สำคัญที่สุด คือ เริ่มจากความเข้าใจของตนเอง ที่จะค่อยๆ เห็นถูกในความเป็นจริงอันเป็นหนทางการดับกิเลส ที่เข้าใจถูกว่า ขณะนี้มีแต่ธรรม ไม่ใช่เรา อันเป็นหนทางเดียวที่ดับกิเลส ดับ จิต เจตสิกได้ในอนาคตกาล ซึ่งก็เริ่มจากการฟัง ศึกษาพระธรรมในหนทางที่ถูก ครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 28 ม.ค. 2559

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าที่พระองค์จะได้ตรัสรู้นั้น ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลาถึงสี่อสงไขยกับอีกแสนกัปป์ เป็นเวลาที่ยาวนานเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดนั้นไม่ใช่เพื่อตัวพระองค์เพียงพระองค์เดียว แต่เพื่อประโยชน์ของสัตว์โลกทั้งปวง พระองค์ทรงอนุเคราะห์สัตว์โลกด้วยการแสดงพระธรรมตามสมควรแก่อัธยาศัย ซึ่งผู้ที่ได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุเป็นพระอรหันต์ถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลส สิ้นทุกข์โดยประการทั้งปวง พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน นอกจากนั้นแล้ว พระอริยบุคคลขั้นอื่นๆ กล่าวคือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี และพระอนาคามี ก็มีเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้ที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สะสมความเข้าใจถูก เห็นถูก เป็นที่พึ่งในภายหน้า ก็มีเป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นประโยชน์ที่ได้จากการฟัง การศึกษาพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว นั่นเอง ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 29 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย j.jim  วันที่ 30 ม.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย doungjai  วันที่ 3 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 9 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ