ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เมื่อวันที่ ๒๖ ถึงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้เดินทางไปพักผ่อนและสนทนาธรรมที่จังหวัดกระบี่ พร้อมกับกลุ่มสนทนาธรรมคุณฟองจันทร์ วอลช และเพื่อน ซึ่งมีการถ่ายทอดเสียงการสนทนาธรรมให้ผู้ที่สนใจทางบ้านได้รับฟัง ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งที่ได้ติดตามรับฟังด้วย และพบว่าเป็นความการสนทนาที่ท่านกล่าวถึงเรื่องพระวินัยบัญญัติ ซึ่งในระยะนี้ ทางมูลนิธิฯ โดยท่านอาจารย์ ให้ความสำคัญในการสนทนาเรื่องพระวินัยเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องของพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างมาก เพราะเหตุว่า จากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นไป ของพระพุทธศาสนาในปัจจุบัน มีต้นเหตุมาจากผู้ที่เรียกตนเองว่าชาวพุทธ แต่ไม่เข้าใจธรรมะ และไม่ศึกษาพระวินัย มีการประพฤติผิด ทุจริตต่างๆ อันมีต้นเหตุมาจากการที่คฤหัสถ์ถวายเงินและทองแก่ภิกษุ เป็นต้น จึงใคร่ที่จะได้นำข้อความที่ท่านอาจารย์กล่าวด้วยเมตตา และมีความปรารถนาดีต่อทุกคน ในอันที่จะแสดงความจริงที่ถูกต้อง ให้ทุกๆ ท่านได้พิจารณาและเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาของท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง หากทุกคนได้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในพระวินัยแล้ว คฤหัสถ์ย่อมจะไม่กระทำการใดๆ ที่เป็นเหตุให้พระภิกษุท่านต้องอาบัติ เช่น การไม่ถวายเงินและทองแก่ท่าน ทั้งๆ ที่ทรงมีพุทธบัญญัติไว้แล้ว เพื่อความผาสุขของหมู่สงฆ์ อันจะเป็นการที่พุทธบริษัท เกื้อกูลแก่กันละกัน ซึ่งจะเป็นเหตุให้พระศาสนาเจริญ มั่นคง สืบไป โดยจะขออนุญาตนำเสนอเป็นตอนๆ ไป ตามสมควร และขออนุโมทนาเพื่อนสหายธรรม สำหรับภาพถ่ายประกอบในกระทู้ด้วยนะครับ
อนึ่ง จากที่ท่านอาจารย์และมูลนิธิฯ ได้มีการสนทนาธรรม แสดงความจริงที่ถูกต้องของพระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้เพื่อความอยู่ร่วมกันโดยผาสุขของหมู่สงฆ์ โดยต่อเนื่องในระยะนี้ ทำให้มีผู้ที่ผู้ที่แสดงความเป็นห่วงว่า จะเป็นการไปกระทบต่อบุคคลอื่น ซึ่งท่านอาจารย์ได้กล่าวตอบอย่างน่าคิดว่า "...ถ้ามีผู้ที่เข้าใจพระวินัยเพิ่มขึ้น สมัยนี้จะไม่เป็นอย่างนี้เลย เป็นความเสื่อมอย่างยิ่งของความประพฤติ ที่ไม่ประพฤติตามพระวินัย...เพราะฉะนั้น สมควรไหม? ถึงเวลาไหม? ที่จะมีความเมตตา เห็นว่าสิ่งใดก็ตามที่เป็นประโยชน์ ที่ควรที่จะให้คนอื่นได้รู้ ได้เข้าใจถูกต้อง ควรทำไหม? และ ตราบใดที่ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจ อดทนไหม ที่จะกล่าวไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเข้าใจ..."
คุณฟองจันทร์ กราบท่านอาจารย์ค่ะ ที่มูลนิธิฯ ขณะนี้ ก็มีการพูดคุยถึงเรื่องพระวินัยต่างๆ เยอะมาก ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็มีการสนทนากันเยอะ ซึ่งบางคนก็อาจจะคิดว่ามากไป บางคนก็อาจจะคิดว่าน้อยไปหรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ทราบว่าท่านอาจารย์มีความเห็นอย่างไร ที่ทางมูลนิธิฯของเราต้องพูดคุยถึงพระวินัยเยอะมาก ช่วงนี้
ท่านอาจารย์ คนที่ว่าพระวินัยมากไปนี่ เขารู้หมดแล้วใช่ไหม? ไม่ต้องฟังอีกหรืออย่างไร?
คุณฟองจันทร์ ก็เหมือนกับว่า เขาฟังมาหลายเดือนแล้ว อะไรอย่างนี้ค่ะ
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง ฟังหลายเดือน แล้วก็พระวินัยมีจบไหม? เหมือนอย่างพระอภิธรรม มีจบไหม? พระสูตรมีจบไหม? แค่ได้ฟังนิดเดียว พอแล้วหรือ?
คุณฟองจันทร์ เหมือนกับว่า ถ้าเป็นสมัยก่อน เราก็จะมีสนทนาหลากหลาย
ท่านอาจารย์ ถ้าอย่างนั้น เราจะตัดพระวินัยปิฎกออกดีไหม?
คุณฟองจันทร์ สำหรับหนู คิดว่าไม่ได้ เพราะว่า ๓ ปิฎกนี้ จะต้องสอดคล้องกัน
ท่านอาจารย์ เขาไม่เห็นประโยชน์ของพระวินัยหรือ? ว่า พระวินัยก็คือธรรมะ และความละเอียดของพระวินัย ก็ช่วยทำให้เห็นความละเอียดของกิเลส
คุณฟองจันทร์ อย่างไรคะ ท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่มีกิเลส (จะ) ไม่มีการบัญญัติพระวินัยเลย แต่พระวินัยทุกข้อ บัญญัติเมื่อพระภิกษุทั้งหลายทำผิดเพราะยังมีกิเลสอยู่ ทรงประชุมสงฆ์ แล้วก็บัญญัติว่า เป็นสิ่งที่สงฆ์เห็นพร้อม ว่าเหมาะควร ก็บัญญัติ ไม่ใช่ความที่พระองค์คิดว่าภิกษุคิดอย่างหนึ่ง แล้วพระองค์คิดอย่างหนึ่ง แต่ต้องให้สงฆ์เห็นว่าถูกแล้วก็สมควรด้วย ที่จะบัญญัติให้เป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ของภิกษุทั้งหมด ตลอดไป ทุกกาลสมัย แล้วเราว่ามากไป เรารู้หมดหรือยัง? แล้วเราควรจะรู้ไหม? หรือเราคิดว่าไม่ควรรู้เพราะเราไม่ใช่ภิกษุ แต่เราก็เป็นพุทธบริษัท ใช่ไหม?
คุณฟองจันทร์ แล้วเราจะต้องศึกษาเหมือนอย่างกับพระภิกษุศึกษาหรือเปล่า?
ท่านอาจารย์ เท่าที่จะเป็นประโยชน์ ดีไหม? เพราะว่า ที่มูลนิธิฯศึกษาอยู่นี่น้อยมาก ไม่ได้มากมายอะไรเลย พระวินัยนี่ไม่ได้มากมาย แล้วเราเป็นพุทธบริษัท เราจะทอดทิ้งบริษัทหนึ่งคือภิกษุหรือ? ภิกษุก็เป็นบริษัทหนึ่งในพุทธบริษัท ขณะนี้มี ๓ คือ อุบาสก อุบาสิกา และ ภิกษุ แล้วจะละเลย ทอดทิ้งพระภิกษุหรือ? หรือว่า ควรที่จะพูดถึงสิ่งที่ทำให้สำนึกในความเป็นพระภิกษุ เหมือนกับคฤหัสถ์ที่เป็นอุบาสก อุบาสิกา ก็สำนึกในการที่จะต้องเข้าใจพระธรรม พระภิกษุก็ทั้งเข้าใจพระธรรมด้วย พระวินัยด้วย
คุณฟองจันทร์ แต่ก็ดูเหมือนว่าพระภิกษุสมัยนี้ ไม่มีพระธรรมวินัย
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น นี่เป็นเหตุที่เราต้องพูด ถ้าท่านมีพร้อม เราไม่ต้องพูดเลย!!! เราจะพูดทำไม ท่านรู้หมดแล้ว ทั้งธรรม ทั้งวินัยด้วย เราไม่ต้องพูด ท่านรู้แล้ว แต่นี่เพราะเป็นอย่างนี้ เราสมควรที่จะเกื้อกูลไหม?
คุณฟองจันทร์ แล้วมีบางคนที่มูลนิธิฯฝากมาถามท่านอาจารย์ว่า ที่มูลนิธิฯจะพูดเรื่องนี้ไปอีกนานแค่ไหน?
ท่านอาจารย์ อีกนาน...บอกได้คำเดียวว่า..อีกนาน.....จนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น!!! ดิฉันเอง ทุกครั้งที่อ่านพระวินัยด้วยตัวเอง และได้มีการฟังพระวินัยจากการสนทนาธรรมหรือพระวินัย ประโยชน์สูงสุดมาก เพราะเหตุว่า เคารพในพระมหากรุณาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงเห็นประโยชน์ว่า ผู้ที่เป็นภิกษุจริงๆ ที่จะรักษาพระวินัย พระศาสนา ไว้ได้ ต้องเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ ถ้าจะกล่าว เหมือนอย่างพระองค์เลย ทุกข้อ ไม่รับเงินทอง ไม่ยินดีในเงินและทอง กาย วาจา ทั้งหมด อภิสมาจาร ความประพฤติ ปฏิบัติ ที่ดีงาม ไม่เป็นที่ติเตียนเลย เพื่ออะไร? ทำไมพระพุทธเจ้าจะต้องมานั่งบอกว่า เวลาบริโภคอาหาร อย่าบริโภคเสียงดัง อาหารอยู่ในคำข้าวอย่าทำอย่างนั้น อย่างนี้ ทั้งหมด (ทรงเป็น) พ่อแม่ตลอดกาล แม้ว่าภิกษุจะโตแล้ว แต่ว่าความประพฤติทั้งหลาย (ทรง) สอดส่องดูแล เหมือนกับบุตรที่เกิดจากพระอุระ
เพราะฉะนั้น เราจะเห็นพระมหากรุณาได้ว่า ทรงขัดเกลากิเลส ไม่ว่าจะเป็นในเพศบรรพชิตแล้ว ก็ไม่ได้ละเลยเลย ไม่ใช่ว่าบวชแล้วก็ปล่อยไป พระภิกษุจะทำอย่างไรก็ได้ อย่างนั้นพระศาสนาก็จะไม่ตั้งมั่น เหมือนกับพระองค์ทรงแสดงธรรมะกับคฤหัสถ์ ตั้งแต่การคบมิตร แล้วก็ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ทรงแสดงทั้งหมด
เพราะฉะนั้น พระธรรมวินัยทั้งหมด ทั้ง ๓ ปิฎก เป็นประโยชน์เกื้อกูล แก่ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ไม่ใช่ว่า คฤหัสถ์ ส่วนตัว ฉันศึกษาแค่พระสูตร พระอภิธรรม พระวินัยฉันไม่เกี่ยว นั่นไม่ใช่เลย นั่นคือผู้ที่ไม่เห็นคุณค่าของ "คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า" ไม่ว่าจะตรัสเรื่องอะไร เป็นไปเพื่อประโยชน์ ทั้งหมด!!!
ผู้ฟัง เหมือนกับว่าไม่อยากฟัง ใช่ไหม? ถึงถามว่า จะพูดเรื่องพระวินัยไปอีกนานเท่าไหร่? พูดอีกนานค่ะ นานมาก...จนกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง จะค่อยๆ เกื้อกูล เอื้อเฟื้อ ต่อพระภิกษุ ต่อพุทธบริษัททั้งหมด ว่า ให้เห็นคุณค่าของพระธรรมทุกคำ ไม่ว่าจะเป็นพระวินัย พระสูตร หรือ พระอภิธรรม!!!
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน และโปรดติดตามตอนต่อไป เร็วๆ นี้ ครับ
.........
ขอเชิญคลิกชมตอนต่อไปที่นี่...
ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ซาบซึ้งในหทัย [15] ตอน ทำไมคฤหัสถ์ควรศึกษาพระวินัย ๒
ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ซาบซึ้งในหทัย [16] ตอน ทำไมคฤหัสถ์ควรศึกษาพระวินัย ๓
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เมตตาที่ท่านอาจารย์พูดเพื่อเกื้อกูลให้ทุกบริษัทเห็นความสำคัญของการศึกษา
ทั้งพระวินัย ทั้งพระสูตร ทั้งพระอภิธรรม
ล้วนเป็นไปเพื่อการศึกษาทั้งสิ้น
คำถามจึงมีกับผู้ถามว่า จะต้องฟังพระวินัยไปอีกนานแค่ไหน
ก็เท่ากับผู้ถาม ถามว่าจะต้องศึกษากันอีกนานแค่ไหน
ท่านอาจารย์จึงเมตตาตอบว่า อีกนาน นานจนกว่าจะเข้าใจ
เหมือนกับที่ท่านเคยกล่าวอุปมาไว้บ่อยๆ ว่า เหมือนจับด้ามมีด
ขอกราบบูชาคุณท่านอาจารย์ฯ ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลของทุกท่านด้วยครับ
พระวินัยควรค่าแก่การศึกษายิ่งสำหรับอุบาสกอุบาสิกา นอกจากขัดเกลาตนแล้วยังมีส่วนเอื้อเฟื้อพระมิให้กระทำผิดพระวินัยอันยังประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาดำรงอยู่ได้
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
อนุโมทนาขอบพระคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องและคุณวันชัย ภู่งามค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่วันชัย ภู่งาม เป็นอย่างยิ่ง และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาอย่างยิ่งค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ