คือคุณพ่อของกระผมเสียด้วยโรคปอดอักเสบอายุ 48 ปี รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลได้ 7 เดือน ช่วงระยะแรกของการรักษาตัวที่โรงพยาบาลคุณหมอก็มีการเอ็กซเรย์ เจาะไขสันหลังเพื่อตรวจโรค แล้วตรวจพบว่าคุณพ่อติดเชื้อในกระแสโลหิต แล้วประมาณช่วงเดือนที่ 4 มีอยู่ช่วงหนึ่งคือ กระผมเช็ดตัวให้พ่อของผม แต่คุณพ่อไม่ยอมให้เช็ด ผมเลยโกรธจึงเผลอเช็ดตัวแรงเกินไป เพราะคุณพ่อขัดใจไม่ยอมให้เช็ด แต่มีเจตนาเพื่อให้คุณพ่อสะอาดและสบายตัว พอเวลาผ่านมาครึ่งชั่วโมง - 1 ชั่วโมง คุณพ่อมีอาการหายใจหอบขั้นรุนแรง แล้วก็เข้าพักรักษาตัวในห้อง ICU แพทย์ระบุว่าติดเชื้อต้องให้ยาปฏิชีวนะ รักษาตัวในห้อง ICU ได้ประมาณ 2 เดือน แล้วกลับมาพักรักษาตัวในห้องผู้ป่วยปกติได้ประมาณ 1 อาทิตย์ แล้วก็เสียด้วยโรคปอดอักเสบ กระผมเลยอยากทราบว่า สาเหตุที่คุณพ่อเสียชีวิตมีส่วนมาจากที่ผมเช็ดตัวแรงเกินไปด้วยความโกรธหรือเปล่าครับ แล้วในกรณีนี้ถือว่าเป็นการกระทำปิตุฆาตหรือไม่ครับ ขอบพระคุณครับ
บาป ไม่บาป สำคัญที่เจตนา หากไม่มีเจตนาฆ่า เจตนาหวังดี เช็ดตัวให้ แต่ท่านตายเพราะกรรมของท่าน ไม่มีเจตนาฆ่า ก็ไม่บาปครับ เพราะฉะนั้น สำคัญที่เจตนาเป็นสำคัญ ครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เจตนาก็ชัดอยู่แล้วว่าประสงค์จะให้คุณพ่อท่านได้รับความสะอาด สบายตัว ไม่เดือดร้อน ไม่ใช่เจตนาฆ่าอย่างแน่นอน แต่ขณะที่ความโกรธเกิดขึ้น ขณะนั้นเป็นอกุศลของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่เจตนาฆ่า ซึ่งปกติแล้วสำหรับผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ เมื่อได้เหตุปัจจัย กิเลสก็เกิดขึ้นเป็นไป ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น สิ่งที่บุตรธิดาควรทำเมื่อบิดามารดาล่วงลับไปแล้ว คือ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ