ผมได้เคยสนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมบางท่าน เรื่อง พญานาค เขาบอกว่า พญานาคเป็นเทพชั้นต่ำ แต่ประวัติในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า สัตว์ดิรัจฉาน ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ห้ามบวช ก็เลยยังสงสัยอยู่ครับ หากเป็นสัตว์ดิรัจฉานจริงๆ และถึงแม้จึงมีฤทธิ์ มนุษย์ก็ไม่ควรจะบูชา
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจมากมายเท่าไรนะครับ เพราะเป็นเรื่องเกินวิสัยของมนุษย์ที่จะรู้ได้ และไม่ใช่สิ่งที่จะมาถกเถียงกัน เพราะไม่เกิดประโยชน์ แต่นักเรียนชอบถามผม ผมก็เลยหาข้อสรุปไม่ได้ ได้แต่บอกว่าพระไตรปิฎกเขียนไว้ว่าอย่างนี้ และในพระไตรปิฎก จะเขียนว่า "นาโค" แปลว่า ผู้ไม่ทำบาปทั้งปวง หรือผู้ประเสริฐ เป็นคำๆ เดียวกับ "นาค" หรือเปล่าครับ ส่วนที่บอกว่า นาค ขอฝากชื่อนี้ไว้ใน พระพุทธศาสนานั้น จริงหรือเปล่าครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พญานาค เป็นสัตว์ประเภทหนึ่ง เป็นอเหตุกสัตว์ คือ เกิดหรือปฏิสนธิไม่ประกอบด้วยเหตุที่ดีคือ อโลภะ อโทสะ อโมหะเลย ดังนั้น จึงเป็นสัตว์ประเภทที่เป็นอบายภูมิ ครับ เพราะฉะนั้น พญานาคในสมัยพุทธกาล เมื่อได้ฟังธรรม ก็ไม่สามารถบรรลุได้ เพียงแค่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เพราะเป็นสัตว์ประเภทอบายภูมิ ซึ่งเกิดด้วยผลของอกุศลกรรมนั่นเองครับ
พระพุทธเจ้าทรงแสดงความหมายของนาค หมายถึง ผู้ไม่ทำบาป ผู้ไม่ทำชั่ว ชื่อนาค
นาค เป็นชื่อของพระพุทธเจ้า ด้วยครับ
ผู้ใดไม่กระทำบาปอะไรๆ ในโลก สลัดออกซึ่งธรรมเป็นเครื่องประกอบและเครื่องผูกได้หมด ไม่ข้องอยู่ในธรรมเป็นเครื่องข้องมีขันธ์เป็นต้นทั้งปวง หลุดพ้นเด็ดขาด ผู้คงที่ เห็นปานนั้น บัณฑิตกล่าวว่า เป็นนาค.
ที่สำคัญ เมื่อต่างก็เป็นสัตว์โลกด้วยกันทั้งนั้น จะต่างกันอะไรในเมื่อก็เป็นผู้มีอวิชชา ความไม่รู้เหมือนกัน ดูภายนอกก็ดูแปลก อัศจรรย์ เพราะมีรูปร่างลักษณะไม่เหมือนกัน และวิจิตรต่างๆ กันไปตามกุศลกรรมและอกุศลกรรมที่นำเกิดที่แตกต่างกัน แต่เหมือนกัน คือ สัตว์ แปลว่า ผู้ข้อง ข้องอยู่ในโลก ข้องอยู่ในกิเลส ข้องอยู่ในสังสังสารวัฏฏ์ ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้เลย จึงไม่แตกต่างกันเลยไม่ว่ามนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เทวดา พญานาค ในเรื่องของความเป็นจริง ก็คือเป็นเพียง จิต เจตสิก และรูป เท่านั้นครับ ไม่ต่างกันเลย และก็เหมือนกันที่สะสมความไม่รู้ กิเลสมาทำให้เกิดวนเวียนเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยการเกิดดับสืบต่อกันไม่มีที่สิ้นสุดครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก เพราะการเกิดในภพภูมิต่างๆ เป็นไปตามกรรม ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย ถ้าเป็นผลของกุศลกรรมก็ทำให้ไปเกิดในสุคติภูมิ เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นเทวดา พญานาค เป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดด้วยผลของอกุศลกรรม
แม้คำว่า นาค คำเดียว ก็มีหลายความหมาย บางแห่ง หมายถึง ช้าง ก็มี บางแห่งหมายถึง ผู้ประเสริฐ คือ ผู้ที่สามารถดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น ไม่กลับมาหากิเลสที่ดับได้แล้วอีก บุคคลผู้ประเสริฐสูงสุด คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ทรงห่างไกลแสนไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ ๘๒๙
บุคคลชื่อว่านาค เพราะอรรถว่า ไม่มา อย่างไร? กิเลสเหล่าใด อันบุคคลนั้นละได้แล้วด้วยโสดาปัตติมรรค บุคคลนั้นย่อมไม่มา ไม่ย้อนมาไม่กลับมาสู่กิเลสเหล่านั้นอีก กิเลสเหล่าใดอันบุคคลนั้นละได้แล้วด้วยสกทาคามิมรรค....ด้วยอนาคามิมรรค....ด้วยอรหัตตมรรค บุคคลนั้นย่อมไม่มา ไม่ย้อนมา ไม่กลับมาสู่กิเลสเหล่านั้นอีก บุคคลชื่อว่า นาค เพราะอรรถว่า ไม่มา อย่างนี้.
...ขออนุโมทนากุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
ขอบพระคุณที่ให้ความหมายความเข้าใจสาธุ สาธุ สาธุ
สาธุ ขออนุโมทนา ฯ
การให้ความรู้กับเด็กในเรื่องที่อาจส่งผลต่อทัศนคติที่มีต่อพุทธศาสนานั้น เป็นความรับผิดชอบที่สูงนะครับ ผมอ่านความรู้ข้อคิดเห็นแล้วก็ยังสงสัยว่าท่านจะตอบกับเด็กว่าอย่างไรครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนา กุศลเมตตา ธรรม ท่านอาจารย์ ยิ่งๆ ครับ
ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ในวัมมิกสูตร ท่านอธิบาย จงใช้ปัญญาเพียงดังศาสตรา ยกเขียงหั่นเนื้อเสีย คือ จงละกามคุณ 5 เสีย จงขุดขึ้นเสีย คำว่าชิ้นเนื้อ เป็นชื่อของนันทิราคะ คำว่า นาคเป็นชื่อของภิกษุผู้ขีณาสพ ฯลฯ ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ