ทะเลชื่อและทะเลภาพหมายความว่าอย่างไรคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทะเลภาพ ทะเลชื่อ หมายถึง บัญญัติธรรมนั่นเองคือเป็นเพียงเรื่องราวที่คิดนึกอันเกิดจากปรมัตถธรรม เช่นขณะที่เห็นย่อมเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้น (สี) แต่เมื่อจิตทางมโนทวาร (ทางใจ วาระหลังๆ ) รับต่อ ก็คิดนึกเป็นเรื่องราวเป็นรูปร่างสัณฐานของสิ่งนั้นว่าเป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เป็นคน เป็นสัตว์ จึงเป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ เป็นเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งที่เพียงแค่เห็นสิ่งที่ปรากฎทางตาเท่านั้น และเมื่อคิดนึกเป็นเรื่องราวต่างๆ จิตก็ปรุงแต่ง ให้เป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง ในเรื่องราวที่คิดนึก จากการเห็น ได้ยิน...เป็นต้น
ดังนั้น คำถามที่ว่า ทะเลภาพ และ ทะเลชื่อ เกี่ยวข้องกับอภิธรรมอย่างไร
เมื่อทะเลภาพ ทะเลชื่อ คือ เรื่องราวที่สมมติบัญญัติ ที่คิดนึก เป็นสัตว์ บุคคล
ในขณะนี้แต่หากไม่มีปรมัตถ คือ สภาพธรรมที่เป็นอภิธรรม ที่เป็นเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้ปกระทบสัมผัส ไม่มีจิต และ ไม่มีสี เสียง กลิ่น รส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ก็ไม่มีบัญญัติเรื่องราว เพราะเมื่อไม่มีการเห็น ไม่มีการคิดนึกเลย บัญญัติก็มีไม่ได้ เพราะ บัญญัติ ที่เป็น เรื่องราวที่เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ เนื่องด้วยปรมัตถ เนื่องด้วยอภิธรรม ความหมาย คือ เพราะมีสภาพธรรมที่เป็นอภิธรรมจึงมีบัญญัติ มีทะเลภาพ ทะเลชื่อที่เป็นเรื่องราวต่างๆ ได้ครับ
ขณะนี้เห็น เห็นเป็นอภิธรรม เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ที่เป็นจิต เห็น อะไร เห็น สีที่เป็น รูปธรรม รูปธรรมที่เป็น สี ก็เป็นสภาพธรรมที่จริง ที่เป็นรูป เป็นอภิธรรมอีกเช่นกัน เมื่อเห็นสี แล้ว ก็คิดนึกต่อ การคิดนึก ก็เป็นจิตอีกเช่นกัน เป็นอภิธรรมเมื่อคิดนึก ก็นึกเป็นรูปร่าง สัณฐาน เป็นคนนั้น คนนี้ เป็นสิ่งต่างๆ ก็เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ ณ บัดนั้น ครับ เพราะฉะนั้น อาศัยอภิธรรม อาศัยสภาพธรรมที่เกิดขึ้นจึงเกิดทะเลภาพ ทะเลชื่อ เรื่องราวได้ เมื่อไม่มีสภาพธรรมเกิดเลย ก็ไม่มีเรื่องราว ไม่มีการคิดนึก ไม่มีการคิดเป็นสัตว์ บุคคลต่างๆ ไม่มีทะเลภาพ ทะเลชื่อ นี่คือความเกี่ยวข้องกันของ อภิธรรม กับ ทะเลภาพ ทะเลชื่อ ครับ
พระอริยบุคคล ยังมีทะเลภาพ ทะเลชื่อไหม? พระอริยบุคคล ทุกระดับ ดับความเห็นผิดว่ามีคน มีสัตว์ บุคคลจริงๆ เพราะท่านรู้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมเท่านั้น ที่ปรากฎทางตา หู...ใจ แต่อย่างไรก็ตาม ท่านก็ยังเห็น เป็นสัตว์ บุคคลอยู่ จากการเห็น หรือได้ยิน และก็มีการคิดนึกต่อ เป็นคนนั้น คนนี้ สิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นทะเลภาพ ทะลชื่อ เช่นกัน แต่ท่านไม่ยึดถือว่ามีสัตว์บุคคล จริงๆ เพราะท่านดับกิเลสที่ยึดถือว่ามีสัตว์ บุคคล ตัวตนแล้ว (ดับความเห็นผิด) แต่พระอริยบุคคลที่ไม่ใช่พระอรหันต์ เมื่อคิดนึกเป็นเรื่องราวในสิ่งที่เห็น ได้ยิน...เป็นต้น เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ ก็ยังเป็นอกุศลได้ แต่ไม่ใช่อกุศลที่ยึดถือว่า เป็นเรา เป็นสัตว์บุคคลตัวตนครับ ส่วนพระอรหันต์ แม้เห็น และคิดนึก เป็นเรื่องราว เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ แต่ก็ไม่เกิดอกุศลเลยครับ
การเข้าใจทะเลภาพ ทะเลชื่อ เกื้อกูลการอบรมปัญญาคือสติปัฏฐานอย่างไรเมื่อเข้าใจว่าทะเลภาพ ทะเลชื่อ เป็นเพียงเรื่องราวที่คิดนึก ก็ทำให้เข้าใจว่าต้องมีสิ่งที่ทำให้คิดนึก เช่น สิ่งที่ปรากฎทางตา มีจริง จึงทำให้คิดนึกเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฎทางตา คิดนึกเป็นเรื่องราว เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ หรือ เสียง...ปรมัตถธรรมต่างๆ ที่มีจริง ทำให้มีทะเลภาพ ทะเลชื่อ ดังนั้น สิ่งที่มีจริง คือปรมัตถ (สภาพธัมมะที่มีจริง) ไม่ใช่บัญญัติ (ทะเลภาพ ทะเลชื่อ) เมื่อเข้าใจดังนี้ ก็รู้ว่าการจะรู้ความจริงว่าเป็นธรรม ก็ไม่ใช่จากทะเลภาพ ทะเลชื่อ แต่เป็นสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ครับ ที่ปัญญาต้องรู้ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา และเมื่อเข้าใจขั้นการฟัง ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้สติระลึก และแทนที่จะไม่รู้ความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ก็มีสติเกิดรู้ว่าจริงๆ แล้วมีแต่ธรรม การคิดนึกเรื่องราว ไม่ได้มีจริงเลย เป็นแต่เพียง ทะเลภาพ ทะเลชื่อ
แม้ที่ท่านทั้งหลาย เห็นอยู่ ก็คิดนึกเรื่องราว เป็นสิ่งต่างๆ เป็นบุคคลต่างๆ เป็นทะเลภาพ ทะเลชื่อ ให้ไม่รู้ความจริงว่า เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา (สี) เท่านั้น ขอให้มั่นคงในหนทางการอบรมปัญญาว่า ระลึกรู้สิ่งที่มีจริง (ปรมัตถ) ในขณะนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องราว เป็น ทะเลภาพ ทะเลชื่อ
[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 284 ๑. นามสูตร ว่าด้วยเทวตาปัญหา ๓ ข้อ
[๑๗๘] เทวดาทูลถามว่า อะไรหนอครอบงำสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าสิ่งอะไร ย่อมไม่มี สิ่งทั้งปวงเป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่ง คืออะไร.
[๑๗๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ชื่อย่อมครอบงำสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งปวงที่ยิ่งขึ้นไปกว่าชื่อไม่มี สิ่งทั้งปวง เป็นไปตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือชื่อ.
เชิญคลิกอ่านข้อความในพระไตรปิฎกเพิ่มเติมที่นี่ ครับ
สมุทรในวินัยของพระอริยเจ้า [ปฐมสมุททสูตร ๑]
เชิญคลิกฟังคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ
ทะเลภาพ ทะเลชื่อหมายถึงอะไร
ลอยอยู่ในทะเลชื่อเพราะอวิชชามานานเท่าไร
กว่าจะค่อยๆ พ้นจากทะเลชื่อ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าจะกล่าวถึงเรื่องใด ก็ไม่พ้นไปจากชีวิตประจำวันเลย แม้แต่ในเรื่องของทะเลภาพทะเลชื่อ ก่อนอื่นก็น่าพิจารณาว่า ทะเล หรือ มหาสมุทรนั้น เป็นสิ่งที่กว้างขวางใหญ่โตมีน้ำเป็นจำนวนมาก เปรียบเทียบได้กับชีวิตประจำวันเราเกี่ยวข้องกับชื่อและภาพมากมาย เพราะเหตุว่ามีการรับรู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ
เมื่อรู้อารมณ์ทาง ๕ ทวาร ทวารหนึ่งทวารใด ก็มีการับรู้ต่อทางใจ ที่เป็นคนนั้นคนนี้ หรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด นั่นเป็นการรับรู้ทางมโนทวาร หรือแม้ไม่ได้อาศัยทาง ๕ ทวารนั้น ก็มีการคิดนึกได้ คิดถึงชื่อหรือเรื่องราวต่างๆ แม้แต่ศึกษาธรรมก็ยังมีชื่อของธรรมอีกมากมาย
เมื่อได้ฟังได้ศึกษาเรื่องของทะเลชื่อ ทะเลภาพแล้ว ก็เตือนให้ได้เข้าใจถึงความเป็นจริงว่า จริงๆ แล้ว อะไรที่มีจริง สิ่งที่มีจริงๆ นั้นไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ เพราะมีสภาพธรรมจึงมีชื่อ มีบัญญัติเรื่องราวต่างๆ เพราะถ้าไม่มีธรรมแล้ว อะไรๆ ก็ไม่มี ซึ่งจะต้องมีความมั่นคงจริงๆ ว่า สิ่งที่มีจริงๆ นั้น ไม่พ้นไปจากปรมัตถธรรม ๔ คือ จิต เจตสิก รูป และพระนิพพานเท่านั้น จิต เจตสิก รูป หลากหลายมาก เป็นสภาพธรรมที่เกิดดับ ส่วนพระนิพพาน เป็นสภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ
หรือแม้แต่ในการฟังในการศึกษาพระธรรม ก็มีชื่อของธรรมมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ให้ไปติดที่คำหรือที่ชื่อ แต่เพื่อให้เข้าใจให้ถูกต้องในคำนั้นๆ และเพื่อเข้าถึงตัวจริงของธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมจริงๆ ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เป็นการเพลินไปกับการจำชื่อจำคำจำเรื่องราวต่างๆ ในพระไตรปิฎก แต่ไม่ได้น้อมมาเพื่อระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงๆ ในขณะนี้ เพราะคำแต่ละคำนั้น ล้วนแสดงเพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ตามความเป็นจริง ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ทะเลภาพ ทะเลชื่อ หมายถึง เห็นเป็นวัตถุ สิ่งของ เช่น เห็น ต้นไม้ ภูเขา บ้าน คน เป็นชื่อนั้น ชื่อนี้ เห็นเป็นบัญญัติเรื่องราวต่างๆ ค่ะ
ขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสองท่านครับที่ให้ปัญญาและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า
ถ้าไม่ศึกษาพระธรรม ก็ไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่ในทะเล มีน้ำล้อมรอบ กว้างใหญ่ไพศาล ตลอดเวลา
กว่าจะว่ายข้ามถึงฝั่งได้ ต้องอดทน ที่จะศึกษาพระธรรม ด้วยความเคารพ
ความเข้าใจจากการศึกษาพระธรรม ค่อยๆ ขัดเกลา เป็นเหตุให้กุศลเจริญขึ้น ตามกำลังของความเข้าใจ
ขณะนี้ยังเป็นผู้ศึกษาอยู่ค่ะ
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
กราบอนุโมทนา ขอบพระคุณท่านวิทยากร ทุกท่านค่ะ