กระผมไม่ได้นอนหลับ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว ครับ กล่าวคือ อาศัยอิริยาบถนั่ง เป็นหลักครับ และมักจะเผลอสติหลับจนได้ ทั้งๆ ที่พยามยามอย่างยิ่งที่จะไม่หลับ และการนั่งหลับนี้ก็มีความฝันประกอบพร้อมด้วยทุกครั้งไป อย่างนี้จะได้ชื่อว่า เป็นผู้มีกิเลศอาศัยอยู่มากใช่ไหมครับ และการทำความเพียรอย่างนี้ ถ้าจะต้องทำต่อไปเรื่อยๆ จะสำเร็จประโยชน์ในการขจัดกิเลสให้ดับสิ้นไป ได้ไหมครับ
ควรทราบว่าความเพียรที่ถูกต้อง (สัมมาวายามะ) ต้องเป็นความเพียรที่เกิดร่วมกับสติปัฏฐาน หรืออริยมรรค ถ้าเป็นความเพียรที่เกิดร่วมกับอกุศลจิต ไม่ควรเพียร เพราะไม่ใช่หนทางเพื่อการละกิเลส ดังนั้นการไม่นอนไม่ใช่ข้อปฏิบัติที่เป็นหนทางเพื่อการดับกิเลส หนทางเพื่อการดับกิเลสคือ สติปัฏฐานและมรรคองค์อื่นๆ ที่เกิดร่วม
สรุปคือ ผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ควรใช้ชีวิตตามปกติ แต่อบรมเจริญปัญญาด้วยการศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจยิ่งๆ ขึ้น ศึกษาสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง สำหรับคฤหัสถ์การไม่นอนไม่เป็นศีล ไม่ใช่สัมมามรรคถ้าจิตเป็นอกุศล
การไม่นอนด้วยความเข้าใจข้อปฏิบัติที่ถูกก็มี และไม่นอนด้วยข้อปฏิบัติที่ผิดก็มี ควรเริ่มจากความเข้าใจที่ถูกว่าการอบรมปัญญาที่ถูกต้องคืออย่างไร ไม่นอนด้วยข้อปฏิบัติที่ถูก เช่น พระจักขุปาล งดเว้นอิริยาบถนอน แต่เข้าใจหนทางการปฏิบัติถูก ความเพียรจึงมีทั้งความเพียรถูกและความเพียรผิดค่ะ
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 395
บทว่า อารทฺธวิริโย ได้แก่ เป็นผู้ประคองความเพียร มีความเพียรบริบูรณ์ในข้อนั้น ภิกษุผู้ปรารภความเพียร ย่อมไม่ยอมให้กิเลสที่เกิดขณะเดินติดมาถึงขณะยืน ไม่ยอมให้กิเลสที่เกิดขณะยืน ติดมาถึงขณะนั่ง ไม่ยอมให้กิเลสที่เกิดขณะนั่ง ติดมาถึงขณะนอน.
"ปัจจัจตัง"
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ไม่นอน มีปัญญาก็ได้ ไม่มีปัญญาก็ได้ ความเพียรที่ถูกต้อง คือ เป็นความเพียรในขณะที่สติปัฏฐานเกิด (วิริยเจตสิก เกิดร่วมกับสติและปัญญาเจตสิก) ดังนั้น ในชีวิตประจำวัน ก็มีความเพียรที่ถูก คือขณะที่สติปัฏฐานเกิด แต่ถ้าไม่นอน แต่สติปัฏฐานไม่เกิด หรืออบรมหนทางผิด ก็เป็นความเพียรที่ผิด ดังนั้นควรเริ่มต้นศึกษาพระธรรมให้เข้าใจถูกต้องในเรื่องการอบรมปัญญา ในขั้นการฟังก่อน เมื่อเข้าใจถูกต้อง ปฏิบัติก็ถูกด้วยครับ ลองฟังไฟล์ธัมมะในเว็ปนี้นะครับ หรือสนทนาในกระดานสนทนาก็ได้ครับ ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การที่คุณนั่งหลับมิใช่เป็นการเผลอสติ แต่ถ้าศึกษาธรรมก็จะทราบได้ว่า ทุกอย่างเป็นธัมมะบังคับบัญชาไม่ได้ ขณะหลับเป็นภวังคจิตซึ่งเป็นวิบากจิตเกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัยและที่คุณฝันด้วยเพราะมีวิถีจิตเกิดสลับ ในขณะฝันไม่ได้หลับ เป็นวิถีจิตทางมโนทวารเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยคิดนึกถึงสิ่งต่างๆ เพราะเรายังเป็นปุถุชนอยู่ ผู้ที่ขณะหลับและไม่ฝัน คือ พระอรหันต์ ดังนั้นต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องว่า ไม่มีเรา ไม่มีตัวตนที่จะบังคัญบัญชาไม่ให้หลับได้ เพราะทุกอย่างเป็นธัมมะไม่ใช่เราและเกิดเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป รวดเร็วจนประมาณไม่ได้ จะรู้หรือไม่รู้สภาพธรรมก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้น จึงควรศึกษาเพื่อให้เกิดความเห็นถูกเสียก่อนเป็นอันดับแรกครับ
อนุโมทนา
กลับไปนอนได้แล้วนะ อย่าทำตัวให้ผิดปกติ ถ้าผิดปกติเมื่อไหร่ เมื่อนั้นรู้ได้เลยว่า ถูกโลภะพาไปอีกแล้ว เมื่อใดที่สติเกิดก็ระลึกศึกษาสภาพธรรมในขณะนั้นทันทีสติเกิดน้อย ไม่บ่อย เพราะขาดปัจจัยให้สติเกิด ควรสะสมการฟังธรรม และหมั่นพิจารณาสภาพธรรมตามปกติ
ขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ