จาก web site ปกิณกธรรมทำให้ได้ผมได้ทราบว่า ธรรมะที่ควรกำหนดรู้ ๓ ประการ ได้แก่ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ ผมไม่มีความสงสัยเกี่ยวกับกามภพ (เพราะคิดว่า คงเกี่ยวกับการคลั่งไคล้ไหลหลงอะไรประมาณนั้นใช่ไหมครับ) แต่สำหรับรูปภพ และ อรูปภพนั้น สองอย่างนี้คืออะไรครับ แล้วเหตุใดพระพุทธเจ้าจึงทรงสั่งสอนให้กำหนด รู้ธรรมทั้ง ๓ อย่างเหล่านี้ครับ
ขอขอบคุณท่านอาจารย์มากครับ
พระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา โดยมากทรงแสดงตามอัธยาศัยของผู้ฟัง ตามที่ท่านยกธรรมที่ควรกำหนดรู้ ๓ ประการได้แก่ กามภพ รูปภพ อรูปภพ นั้น หมายถึง การจำแนกธรรมตามระดับของภูมิต่างๆ คือ ธรรมที่เป็นไปในกามภพก็มี ธรรมที่เป็นไปในรูปภพ อรูปภพก็มี ฉะนั้น ฐานะของผู้ฟังในสมัยนั้นมีต่างกัน ความสามารถในการกำหนดรู้ธรรมก็ต่างกัน ผู้ฟังย่อมรู้ตามฐานะของตนๆ แต่โดยธรรมที่มีลักษณะเสมอกัน คือ ทั้งกามภพ รูปภพ อรูปภพ ทั้งหมดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
การกำหนดรู้ หรือ การรอบรู้ มาจากภาษาบาลีว่า "ปริญญา" ปริ + ญา ปริญญา เป็นชื่อหนึ่งของปัญญาเจตสิก มีกิจรู้ลักษณะตามความเป็นจริง
ดังนั้น การกำหนดรู้เป็นปัญญา ไม่ใช่การไปพยายามกำหนดรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกหรือไม่ครับ กรุณาอธิบายเพิ่มเติม
ที่ท่านเข้าใจถูกต้องครับ การกำหนดรู้เป็นกิจของปัญญา ไม่ใช่ตัวเราเข้าไปกำหนดรู้ด้วยความต้องการ
ขออนุโมทนาครับ