เวลาโกรธ ท่านเป็นดังอสรพิษ ประเภทไหน
ก่อนที่ท่านจะได้ฟังพระธรรม ทุกท่านต้องเคยโกรธผู้อื่น ต้องเคยถูกพิษของโทสะ ซึ่งมีทั้งที่แล่นแต่ไม่ร้าย ไม่แล่นแต่ร้าย แล่นด้วยร้ายด้วย และไม่แล่นไม่ร้าย เกิดกับจิตในอดีตแน่นอน แต่หลังจากที่ได้ฟังพระธรรมต่างหาก ที่สำคัญกว่า พระธรรมได้ขัดเกลาพิษที่เกิดจากโทสะชนิดที่รุนแรง ให้น้อยลงไปหรือไม่ เพราะเพียงการอ่านพระสูตร ทุกท่านเข้าใจและรู้ได้จากบัญญัติว่า ท่านควรจะเป็นบุคคลประเภทไหน แต่ในชีวิตจริงของท่าน จะสามารถเป็นแบบนั้นได้หรือ ถ้าขาดปัญญา ก็หมดสิทธิกำหนด การศึกษาพระธรรม จึงเป็นสิ่งที่ควรจะต้องพิจารณาโดยละเอียด ถึงเวลาที่ควรจะ เจริญเมตตาหรือยังหนอ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่... ว่าด้วยบุคคล ๓ จำพวก_ 1 [เลขสูตร]
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่... ว่าด้วยบุคคล ๓ จำพวก_ 3 [เลขสูตร]
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ชอบมากๆ ค่ะ สำหรับภาพของพี่วรรณี และน้องแล้วเจอกัน เห็นด้วยค่ะ สำหรับการโกรธของข้าพเจ้านั้น ถ้าไม่ได้ฟังธรรม ก็คงจะแย่แน่ค่ะ แต่นี่โชคดีได้ฟังพระธรรมและมีมิตรสหายเช่นทุกท่าน ขออนุโมทนาค่ะ
ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
เนื้อความเปรียบเปรยได้ดีมากค่ะ แถมมีพระสูตรมาให้อ่าน เพื่อความกระจ่างแก่ปัญญายิ่งขึ้น ถ้าเป็นบุคคลที่ตรง ก็จะทราบด้วยตัวเองได้ว่า เป็นบุคคลเหมือนมีรอยขีดชนิดไหนค่ะขออนุโมทนาด้วยค่ะ
ความโกรธของดิฉัน คิดว่าเหมือนรอยขีดในดินค่ะ เพราะไม่ชอบถือโกรธใคร กลัวใจ
เป็นทุกข์ จิตไม่ผ่องใส
ขอบคุณ คุณ ajarnkruo ดิฉันรู้จักตัวเองมากขิ้น จากความกรุณาของคุณที่ post เรื่องดีๆ เช่นนี้ ดิฉันเป็นอสรพิษที่เสียใจกับความเป็นอสรพิษของตน และกำลังทุรนทุรายกับผลจากการพ่นพิษของตน ศึกษาแล้วแต่ยังคงมืดบอดเสมอ....
เคยเป็นคนกลัวงูชนิดที่ว่า กำลังขับรถอยู่ เห็นงูเลื้อยตัดถนนด้านหน้าก็ถึงกับยกเท้าทั้งสอง งอเข่าขึ้นหาอก ขนลุก เดี๋ยวนี้กลัวน้อยลงนิดนึงเพราะรู้แล้วว่า พิษกิเลสอวิชชาที่ตนเองมีอยู่อย่างเหนียวแน่นเต็มตัว ร้ายกว่างูเยอะ แม้เพื่อนสนิทส่วนมากจะบอกว่า ดิฉันเป็นคนประเภท อสรพิษ มีพิษแล่นพิษไม่ร้าย แต่การช่างได้โกรธอยู่เนืองๆ ก็ไม่ใช่เรื่องดีแม้แต่นิดเดียว และแก้ไขยากซะเหลือเกิน
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ