ปัญหาเรื่อง การให้ทาน
๑. ถ้ามีผู้มาขอเงินเราไปซื้อสุราและบอกด้วยวาจาให้เรารู้เลยว่า มีจุดประสงค์อย่างเดียว คือจะเอาเงินของเราไปซื้อสุรา เราสมควรให้เงินแก่เขาหรือไม่ เพราะ?
๒. แล้วถ้าเราไม่ให้ จิตจะเป็นกุศลได้ไหม เช่น เราบอกว่าให้ไปซื้อข้าวทานนะ อย่าไปซื้อเหล้าเลย มันไม่ดีต่อสุขภาพ (ทั้งๆ ที่ในใจ เราก็รู้ว่าเขาต้องเอาไปซื้อเหล้าแน่นอน แล้วภายหลังมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ)
๓. ถ้าเกิดเขาจะลงแดงตายในวันนั้น เราควรจะให้เงินแก่เขาอยู่หรือไม่ เพราะ?
๔. การให้ของปุถุชนต้องมีเหตุผลก่อนให้ จึงจะเป็นสิ่งที่ควรโดยตลอดหรือไม่ เพราะบางท่านก็บอกว่า ควรดูพระโพธิสัตว์เป็นแบบอย่าง คือให้มากมายจริงๆ แต่บางท่านก็ได้แย้งว่านั่นก็ตอนที่เป็นพระโพธิสัตว์ ยังสั่งสมบารมีอยู่ แต่เมื่อทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ไม่ได้ทรงประทานอะไรให้ใครตามใจชอบ เช่น ไม่ทรงทำตามคำขอร้องของพระเทวทัตหลายๆ ข้อ หรือไม่ทรงบัญญัติสิกขาตามที่พระสารีบุตรได้ขอไว้ก่อน เหตุการณ์จะเกิด เป็นต้น ขอขอบพระคุณในคำตอบ ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยเชิญคลิกอ่าน...
ทานควรให้ในที่ใดหนอแล [อิสสัตถสูตร]
การให้ที่ไม่เป็นทาน คือ การให้ยาพิษ หรือให้ของมึนเมา ฯลฯ
๑. ไม่ให้ดีกว่า เพราะทำให้เขาล่วงศึลข้อ ๕ คือ ดื่มสุรา
๒. เจตนาเป็นกุศล คือ ตั้งใจให้เขาเพื่อไปซื้อข้าวทาน ไม่ใช่สุรา
๓. ไม่ควรให้ ถึงเขาจะลงแดงตาย ทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน
๔. การให้เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเป็นประโยชน์กับผู้รับ ไม่ทำให้คนอื่นหรือตนเองเดือดร้อน
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ในเรื่องของการให้นั้น พระพุทธเจ้ามิได้ทรงตรัสห้ามว่าควรให้กับใคร แต่ตรัสว่า ควรให้ในที่ที่จิตเลื่อมใสในที่นั้นนั่นเอง (อิสสัตถสูตร ความเห็นที่ 2) แต่สิ่งที่ให้ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับผู้รับ เช่น ไม่ควรให้เงิน ทอง กับพระภิกษุ เป็นต้น ดังนั้น ไม่ได้ตรัสห้ามว่าควรให้บุคคลนี้นะ คนนี้ไม่ให้ แต่ให้พิจารณาในสิ่งที่ให้ ดังข้อ ความในพระไตรปิฎก
เชิญคลิ๊กอ่านที่นี่...
ขอเรียนถามคุณ wannee.s หรือคุณแล้วเจอกัน ก็ได้ครับว่า จากข้อ ๓. ในกรณีที่แพทย์จำเป็นต้องรักษา ผู้ที่มีอาการของ alcoholism คือคนที่ติดสุรามาก ผู้ป่วยก็เห็นโทษในการติดนั้น จึงยินยอมมารับการบำบัดและรักษา แต่เค้าไม่อาจจะฝืนที่จะไม่ดื่มภายในวันเดียวได้ โดยระบุว่าอาจจะช๊อค และลงแดงตาย แพทย์ก็เลยทำการบำบัดแก่เขาโดยให้ดื่มสุราอยู่ แต่ลดปริมาณลงทีละน้อยๆ กรณีเช่นนี้ การให้ของผู้เป็นแพทย์มีเจตนาที่จะช่วยเพื่อให้เขาเลิกดื่มสุราได้ และรักษาชีวิตของเขาด้วย จะเป็นการเบียดเบียนเพราะให้เขาผิดศีล ๕ อยู่หรือไม่
ในพระไตรปิฏกแสดงไว้ว่า ถ้าเอาสุรามาผสมกับอาหาร ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส ภิกษุ หรือคฤหัสถ์ ก็รับประทานได้ไม่ผิดศีลค่ะ แต่ถ้าดื่มสุราอย่างเดียว แม้จะนิดเดียวก็ผิดศีล ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ ก็ตามค่ะ ศีลจึงมีที่สุด เพราะทรัพย์ เพราะอวัยวะ เพราะชีวิต ฯลฯ แพทย์เจตนาดี แต่ก็ทำให้เขาล่วงศีลค่ะ ปุถุชนศีลไม่มั่นคง ถ้าเจอเหตุการณ์อย่างนี้ส่วนมากก็รักษาชีวิตมากกว่ารักษาศีลค่ะ