สิ่งที่นำความสุขมาให้ [เรื่องมาร]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ หน้าที่ 262 ข้อความจาก.. เรื่องมาร
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า .- เมื่อความต้องการเกิดขึ้น สหายทั้งหลาย นำความสุขมาให้
ความยินดีด้วยปัจจัยนอกนี้ๆ (ตามมีตามได้) นำความสุขมาให้
บุญนำความสุขมาให้ ในขณะสิ้นชีวิต
การละทุกข์ทั้งปวงเสียได้ นำความสุขมาให้
ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่มารดา นำความสุขมาให้ ในโลก
อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่บิดา นำความสุขมาให้ ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก
อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พราหมณ์ (ผู้ลอยบาป) นำความสุขมาให้ ศีล นำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา ศรัทธาที่ตั้งมั่นแล้ว นำความสุขมาให้ การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้
การไม่ทำบาปทั้งหลาย นำความสุขมาให้.
ข้อความในอรรถกถาแก้ไว้ว่า
(เมื่อความต้องการเกิดขึ้น สหายทั้งหลายนำความสุขมาให้)
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อตฺถมฺหิ ความว่า ก็ เมื่อกิจ มีการทำจีวรเป็นต้นก็ดี
มีการระงับอธิกรณ์เป็นต้นก็ดี บังเกิดขึ้นแก่บรรพชิตบ้าง. (หรือ) เมื่อกิจ มีกสิกรรมเป็นต้นก็ดี มีการถูกเหล่าชนผู้อาศัยร่วมด้วยฝักฝ่ายที่มีกำลังย่ำยีก็ดี บังเกิดขึ้นแก่คฤหัสถ์บ้าง, สหายเหล่าใด สามารถเพื่อยังกิจนั้นให้สำเร็จได้ หรือให้สงบได้,สหายผู้เห็นปานนั้น นำความสุขมาให้.
สองบทว่า ตุฏฺี สุขา ความว่า ก็แม้คฤหัสถ์ทั้งหลาย ผู้ไม่สันโดษแล้วด้วยของแห่งตน จึงปรารภทุจริตกรรมมีการตัดที่ต่อเป็นต้น, แม้บรรพชิตทั้งหลายผู้ไม่สันโดษแล้ว ด้วยปัจจัยของตน จึงปรารภอเนสนา (การแสวงหาที่ไม่สมควร) มีประการต่างๆ , เพราะเหตุนี้ คฤหัสถ์และบรรพชิตทั้งสองนั้น จึงไม่ประสพความสุขเลย; เพราะฉะนั้น ความสันโดษ ด้วยของมีอยู่แห่งตนนอกนี้ๆ คือเล็กน้อยหรือมากมายนี่เอง นำความสุขมาให้.
(บุญนำความสุขมาให้ ในขณะสิ้นชีวิต)
บทว่า ปุญฺญ ความว่า ก็บุญกรรมที่เริ่มทำไว้ตามอัธยาศัยนั่นแล นำความสุขมาให้ในมรณกาล.
(การละทุกข์ทั้งปวงเสียได้ นำความสุขมาให้) บทว่า สพฺพสฺส ความว่า อนึ่ง พระอรหัต กล่าวคือการละวัฏฏทุกข์ทั้งสิ้นได้นั่นแล ชื่อว่านำความสุขมาให้ในโลกนี้.
(ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่สมณะ นำความสุขมาให้ ในโลก) (อนึ่ง ความเป็นผู้เกื้อกูลแก่พราหมณ์ นำความสุขมาให้) การปฏิบัติชอบในบรรพชิตทั้งหลาย ชื่อว่า สามญฺตา. การปฏิบัติชอบในพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ผู้มีบาป-อันลอยเสียแล้วเท่านั้น ชื่อว่า พฺรหฺมญฺตา. ความเป็นคือการบำรุงพระพุทธเจ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธสาวกทั้งหลายเหล่านั้นด้วยปัจจัย ๔ พระผู้มีพระภาค-เจ้าได้ตรัสแล้วแม้ด้วยบททั้งสอง. แม้ข้อนี้ พระองค์ก็ตรัสว่า ชื่อว่านำความสุขมาให้ในโลก (นี้) .
มีแก้วมณี ตุ้มหู และผ้าแดงเป็นต้น ย่อมงดงาม สำหรับชนผู้ตั้งอยู่แล้วในวัยนั้นๆ เท่านั้น, เครื่องอลังการของคนหนุ่ม จะงดงามในกาลแก่ หรือเครื่องอลังการของคนแก่จะงดงามในกาลหนุ่ม ก็หาไม่, อนึ่ง (เครื่องอลังการที่ตกแต่งไม่ถูกกาลนี้) ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายถ่ายเดียว เพราะให้การครหาบังเกิดขึ้นว่า คนนั้นชะรอยจะเป็นบ้าส่วนประเภทแห่งศีลมีศีล ๕ และศีล ๑๐ เป็นต้น ย่อมงดงามในทุกๆ วัย ทั้งแก่คนหนุ่มทั้งแก่คนแก่ทีเดียว, ย่อมนำมาแต่ความโสมนัสถ่ายเดียว เพราะให้ความสรรเสริญบังเกิดขึ้นว่า "โอ ท่านผู้นี้มีศีลหนอ " เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัส ว่า "สุข ยาว ชรา สีล (ศึล นำความสุขมาให้ตราบเท่าชรา) "
(การได้เฉพาะซึ่งปัญญา นำความสุขมาให้) บาทพระคาถาว่า สุโข ปญฺาปฏิลาโภ ความว่า การได้เฉพาะปัญญาแม้ที่เป็นโลกิยะและโลกุตตระ นำความสุขมาให้.