อุปนิสสยปัจจัย...ปกตูปนิสสยปัจจัย ?

 
พุทธรักษา
วันที่  29 ก.ย. 2551
หมายเลข  10006
อ่าน  3,405

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ณ ตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๒๕ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล

เพราะฉะนั้นในขณะนี้ ก็เป็นจิตประเภทหนึ่งประเภทใด ในจิต ๘๙ ดวง และ ก็เป็นปัจจุบันนธรรม เป็นผล ซึ่งเกิดเพราะจิตและเจตสิกก่อนๆ ที่ได้เกิดแล้ว ในอดีต หรือในขณะนี้เองจิตประเภทหนึ่งประเภทใด ที่เกิดแล้วในขณะนี้ก็จะเป็นอุปนิสสย คือ เป็น ปกตูปนิสสยปัจจัย (ปกติ + อุปนิสสย + ปัจจัย) ที่จะทำให้ จิตต่อๆ ไปเกิดขึ้นข้างหน้า

ซึ่งท่านผู้ฟังจะเข้าใจ "ลักษณะของปกตูปนิสสยปัจจัย" โดยการ "ระลึกรู้ลักษณะของจิต"ที่เกิดขึ้น และกำลังปรากฏ ในขณะนี้ว่า เป็นกุศลหรืออกุศล

อย่างนี้ ก็เพราะมี ปกตูปนิสสยปัจจัย อันเป็นที่อาศัยที่มีกำลังแรงกล้า ที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ระลึกถึงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในปัจจุบันก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจ ปัจจัยทั้งหลายได้ แม้แต่ปกตูปนิสสยปัจจัย

จิตของแต่ละคน คนอื่นยากที่จะรู้ได้ แต่ว่าจิตใดเกิดกับผู้ใด ผู้นั้นก็มีโอกาสที่จะพิจารณา ระลึกรู้ "ลักษณะ" ของจิตนั้นๆ เพราะว่า "จิต" เป็นสภาพธรรม ที่เกิดดับอย่างรวดเร็วและ ถ้าไม่มีอาการ ที่ปรากฏภายนอก ทางกายบ้าง วาจาบ้าง คนอื่น ย่อมไม่สามารถรู้ลักษณะของจิตของผู้อื่น

แต่ "สติ" ของบุคคลนั้นเองสามารถที่จะระลึกรู้ลักษณะสภาพของจิต ที่กำลังเกิดขณะนั้น เช่น โลภมูลจิตบ้าง โทสมูลจิตบ้าง โมหมูลจิตบ้าง

เคย คิดสงสัยไหมว่า ทำไมจิตอย่างนี้ จึงเกิดขึ้น เป็นไปอย่างนี้ ในขณะนี้ได้ ท่านที่ได้ฟัง "เรื่องของสภาพธรรม" ที่เป็นปรมัตถธรรมคือ จิต เจตสิก รูปได้เข้าใจ "เรื่องของการเจริญสติปัฏฐาน" ว่า เป็น การอบรมเจริญปัญญาที่จะรู้ "ลักษณะ" ของนามธรรม และรูปธรรมแต่ละวันๆ

ทุกท่าน กล่าวว่า "สติเกิดน้อย สติปัฏฐานเกิดน้อยมาก"ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ ถ้าไม่มีปกตูปนิสสยปัจจัยก็ย่อมไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า แม้จิตในขณะนั้นๆ ที่เกิดขึ้น เป็นไปอย่างนั้น ก็เป็น อนัตตา

ถ้าไม่มี อวิชชา ที่เคยเกิดแล้วในอดีต ขณะนี้ อวิชชา ก็ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้

ถ้าไม่มี โลภะ ที่เคยเกิดแล้ว ในอดีต ที่สะสมมา เป็นอันมากโลภะ ในขณะนี้ก็เกิดขึ้นไม่ได้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปริศนา
วันที่ 29 ก.ย. 2551

เพราะฉะนั้น "เรื่องของปกตูปนิสสยปัจจัย" เป็นสภาพธรรมที่มีกำลังจนสามารถเป็นปัจจัย ที่ทำให้ ลักษณะของจิตที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้เป็นไปตามกำลัง ของปกตูปนิสสยปัจจัย ซึ่งทำให้แต่ละท่านมีอุปนิสสัยต่างๆ กัน สำหรับอุปนิสสยปัจจัย ปกตูปนิสสยปัจจัยเป็นสภาพธรรม ที่กว้างขวางมาก

เพราะฉะนั้น ก็ควรพิจารณาเป็นลำดับไป ตั้งแต่ปฏิสนธิ ทุกท่านทราบว่า ปฏิสนธิจิต เป็น วิบากจิต โดยชาติคือ เป็นผลของกรรม ไม่ใช่จิตที่กระทำกรรม ในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิด จึงไม่ใช่กุศลจิต และ อกุศลจิต

เพราะว่า กุศลจิตหรืออกุศลจิตเป็นเหตุ เป็นปัจจัยที่จะให้เกิดกุศลวิบากหรืออกุศลวิบาก เพราะฉะนั้นในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ทำกิจสืบต่อจากจุติจิตของชาติก่อน ปฏิสนธิจิตเป็นวิบากจิตเป็นผลของกรรมหนึ่ง กรรมเดียวเท่านั้นในกรรมหลายๆ กรรม ซึ่งได้กระทำแล้วทุกๆ ชาติ เนิ่นนานมาแล้ว แล้วแต่ว่า กรรมหนึ่งกรรมใดจะทำให้วิถีจิตเกิดขึ้น ทำปฏิสนธิกิจ ซึ่งถ้าเกิดในภูมิมนุษย์ เป็นสุคติภูมิก็เป็นกุศลวิบาก แต่เป็นกุศลขั้นกามาวจรกุศล คือ ยังเป็นไปใน รูป รส กลิ่น เสียง โผฏฐัพพะ เพราะฉะนั้น จึงเป็นกามาวจรวิบาก หรือมหาวิบาก ที่ทำกิจปฏิสนธิเป็นขณะแรกในภพนี้ เพราะว่า กรรมมีมากมาย หลายกรรมเหลือเกินในชาติก่อนๆ หลายแสนโกฏิกัปป์ชาติมาแล้ว กรรมใดซึ่งสามารถเป็นปัจจัย ทำให้วิบากจิตเกิดขึ้น ทำกิจปฏิสนธิในภพภูมินี้ กรรมนั้น เป็นอุปนิสสยปัจจัยที่ทำให้วิบากจิตเกิดขึ้นทำปฏิสนธิกิจ หมายความว่าเป็นกรรมซึ่งมีกำลังแรงกล้าที่จะทำให้ปฏิสนธิจิต เกิดขึ้น


ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Noparat
วันที่ 30 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 30 ก.ย. 2551

"สติเกิดน้อย สติปัฏฐานเกิดน้อยมาก"

ทำไมจึงเป็นอย่างนี้

ถ้าไม่มี ปกตูปนิสสยปัจจัยก็ย่อมไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่า แม้จิต ในขณะนั้นๆ ที่เกิดขึ้น เป็นไปอย่างนั้น ก็เป็น อนัตตา

ถ้าไม่มี อวิชชา ที่เคยเกิดแล้ว ในอดีตขณะนี้ อวิชชา ก็ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีโลภะ ที่เคยเกิดแล้ว ในอดีต ที่สะสมมา เป็นอันมากโลภะ ในขณะนี้ ก็เกิดขึ้นไม่ได้

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อและคุณแม่ของคุณปริศนาค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 30 ก.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 30 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Anutta
วันที่ 1 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
orawan.c
วันที่ 1 ต.ค. 2551
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
opanayigo
วันที่ 3 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
pamali
วันที่ 5 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ