ไม่มีเวลาจริงหรือ?

 
orawan.c
วันที่  1 ต.ค. 2551
หมายเลข  10033
อ่าน  1,461

เคยได้ยินผู้กล่าวว่า พระธรรมเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะ ทำให้รู้และเข้าใจความจริงที่ไม่เคยรู้ ถ้าไม่ศึกษาฯลฯ แต่ไม่มีเวลาศึกษา เพราะใน แต่ละวันชีวิตยุ่งมาก มีเรื่องให้ต้องทำและจัดการมากมาย ไหนจะเรื่องงาน ไหนจะเรื่อง ครอบครัว ไหนจะเรื่องงานสังคม ฯลฯ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า จริงหรือไม่ จะไม่มีคำว่าไม่มีเวลาสำหรับสิ่งที่เราให้ความสำคัญจริงๆ ในทุกเรื่อง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 1 ต.ค. 2551

ความสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้พูดเห็นประโยชน์จริงๆ หรือไม่ เท่านั้น คำกล่าวที่อ้างจึงเป็นเพียงคำท่อง ความที่จำมา เท่่านั้นกระมังครับ ไม่ได้มาจากความเข้าใจในประโยชน์หรือเห็นประโยชน์จริงๆ เมื่อธรรมมีในทุกๆ ขณะนี้ ก็ศึกษาในทุกๆ ขณะนี้ ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่นี่ เดี๋ยวนี้เอง ขอนุโมทนาคุณอรวรรณครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 1 ต.ค. 2551

จริงหรือไม่ จะไม่มีคำว่าไม่มีเวลาสำหรับสิ่งที่เราให้ความสำคัญจริงๆ ในทุกเรื่อง ไม่มีเวลาสำหรับสิ่งที่เราให้ความสำคัญจริงๆ ในทุกเรื่องจริงหรือ ไม่จริงคะ เวลาในการพิจารณาสภาพธรรมมีได้ตลอดเวลาเพราะเป็นขณะนี้เดี๋ยวนี้ถ้าป็นเรื่องอื่นๆ คงแล้วแต่เหตุและปัจจัย


อนุโมทนาคำถามที่เตือนใจ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
คนเจ้าโทสะ
วันที่ 1 ต.ค. 2551

ไม่เข้าใจ..จึงไม่มีเวลา

เข้าใจแล้ว.. จึงมีเวลามากมายจนใช้ไม่ทัน

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Noparat
วันที่ 1 ต.ค. 2551

ถ้าเราให้ความสำคัญกับสิ่งใด เราย่อมมีเวลาให้กับสิ่งนั้น

เวลาเป็นของมีค่า แต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ แต่ถ้าได้เรียนรู้ว่า สิ่งใดสำคัญที่สุดในชีวิตทั้งโลกนี้และโลกหน้าแล้ว ก็จะรู้ว่าควรแบ่งเวลาให้กับสิ่งใดค่ะ

"สิ่งที่มีค่า และ มีสาระสำคัญที่สุดในชีวิต คือการเข้าใจพระสัทธรรม"

ขอเวลาตาย ตายจากการงาน ตายจากภาระหน้าที่ เพื่อฟังพระธรรม

(ที่ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ บรรยายธรรม) วันละ ๑ ชั่วโมงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Sam
วันที่ 1 ต.ค. 2551

โดยส่วนตัวเห็นว่า การศึกษาขั้นปริยัตินั้นจำเป็นต้องอาศัยการจัดสรรเวลาให้สอดคล้องกับชีวิตและการสะสมมาที่จะเห็นประโยชน์ของการศึกษาซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกันเลยครับ ผู้ที่เห็นประโยชน์มากย่อมจัดสรรเวลาและทุ่มเทชีวิตให้กับการศึกษามาก เช่น ผู้ที่สะสมมาที่จะดำรงเพศบรรพชิตหรือเป็นฆราวาสผู้อุทิศตนเพื่อการศึกษา และเผยแพร่พระพุทธศาสนา

ส่วนการศึกษาขั้นปฏิบัตินั้น ไม่ต้องกล่าวถึง "เวลา" อันเป็นเรื่องราวสมมติบัญญัติ เพราะไม่มีขณะใดเลยที่ชีวิตว่างจากปรมัตถธรรมอันเป็นอารมณ์ของสติปัฎฐานได้

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 1 ต.ค. 2551

ไม่ค่อยว่าง แต่ห่างการฟังธรรมไม่ได้

ก็เลยต้องหาวิธีให้ตัวเองได้ฟังธรรมทุกวันจนได้ในที่สุด

ที่พึ่งอันเกษม ปราศจากโทษ

สรุป ถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ค่อยว่างเหมือนเดิม

เพราะว่า

ฟังธรรม

(อยู่น่ะ)

ขออนุโมทนาคุณ orawan.c

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
SIRICHAI
วันที่ 2 ต.ค. 2551

ผมก็เหมือนกันครับไม่มีเวลา แต่ก็จะพยายามหาเวลาในการทำกิจวัตรประจำวัน เปิดฟังธรรมของอาจารย์ และก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่ท่านทั้งหลายกล่าวว่า ทุกวินาทีในชีวิตสามารถเจริญสติได้ แต่สติก็เกิดไม่บ่อย นานๆ จะเกิดสักครั้ง เมื่อใดได้ฟังธรรมของอาจารย์ สติจะเกิดได้ง่ายขึ้น จึงต้องอาศัยฟังธรรมของอาจารย์ไปก่อนครับ รีบร้อนไม่ได้เลยเพราะสติปัฏฐานเพิ่งเริ่มเกิดครับ ขออนุโมทนาในข้อคิดของท่านทั้งหลายครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
wannee.s
วันที่ 2 ต.ค. 2551

ถ้าเราชอบอะไรมากๆ เราก็จะให้เวลากับสิ่งนั้น ถ้าเราพิจารณาว่าการได้เกิดเป็น มนุษย์เป็นของยาก การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าก็ยาก การได้ลาภ คือศรัทธาเป็นของยาก การได้ฟังธรรมเป็นของยาก ก็จะทำให้เราสนใจและหาเวลาให้กับพระธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
khampan.a
วันที่ 2 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เวลาที่มีค่า คือ เวลาที่ได้เข้าใจพระธรรม
ชีวิตประจำวันการดำเนินชีวิตของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกันออกไปตามการสั่งสมความคิด คำพูด การกระทำ ความชอบจึงไม่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรมากั้นความเข้าใจพระธรรมของแต่ละบุคคลได้ ถ้ามีเหตุปัจจัยทำให้มีความฝักใฝ่ในการฟัง ในการศึกษาพระธรรม เพราะเหตุว่า ขณะที่สามารถจะมีเวลาให้ได้เข้าใจธรรมเพิ่มขึ้นนั้น เป็นช่วงเวลาของชีวิตที่ประเสริฐ แต่ก็ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับการสั่งสมมาของแต่ละบุคคลอย่างแท้จริง เมื่อได้ฟัง ได้ศึกษาก็จะมีความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น เห็นคุณค่าของพระธรรมมากยิ่งขึ้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ฟังพระธรรมต่อไป ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เมตตา
วันที่ 2 ต.ค. 2551

ในแต่ละวันชีวิตยุ่งมาก ตามความเป็นจริงก็เป็นเพียงสภาพธรรมทั้งหลายที่ปรากฎ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายและทางใจพร้อมที่จะให้ศึกษาทุกๆ ขณะตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะทำกิจการใดอยู่ ครอบครัวกำลังมีปัญหา ทุกสิ่งที่กำลังดำเนินไปไม่พ้นไปจากทางตา ทางหู...และทางใจ ธรรมขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรศึกษา ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Khaeota
วันที่ 2 ต.ค. 2551

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"จริงหรือไม่ จะไม่มีคำว่าไม่มีเวลา สำหรับสิ่งที่เราให้ความสำคัญจริงๆ ในทุกเรื่อง" เพราะเห็นประโยชน์จึงเพียรศึกษาธรรมของ สมเด็จพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ "ธรรม" ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน และทุกอย่างเป็น "อนัตตา"

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
wirat.k
วันที่ 12 ต.ค. 2551

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ