พระอริยบุคคล - ชาติสุดท้าย
เพียงคำพูดแค่นี้จะถือเอาเป็นประมาณไม่ได้หรอกครับ ใครๆ ก็พูดได้ บางคนไม่รู้อะไรเลย หรือผู้ที่เป็นมิจฉาทิฏฐิเขาก็พูดได้ แต่เขารู้หรือเปล่าว่าเขาจะไม่เกิดอีกเพราะอะไร ข้อปฏิบัติเพื่อการไม่เกิดอีกคืออย่างไร ขณะนี้เป็นเพียงสภาพธรรมกำลังเกิดดับรู้หรือยัง ขณะนี้สภาพธรรมไม่เที่ยง เป็นทุกข์เป็นอนัตตา คืออย่างไร
ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมแล้วจะไม่กล่าวเช่นนั้น หมายความว่าอย่างไร ช่วยอธิบายเพิ่มเติม ด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ ได้นั้นต้องอาศัยการสั่งสมบารมี สั่งสมการสดับตรับฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าทั้งหลายมาเป็นเวลาอันยาวนาน ถ้าไม่ได้อบรมเจริญปัญญา จนกระทั่งถึงขั้นที่จะดับกิเลสได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ย่อมไม่สามารถที่จะเป็นพระอริยบุคคลได้ ไม่ใช่ว่าจะบรรลุกันได้ง่ายๆ พระอริยบุคคลขั้นสูงสุด คือ พระอรหันต์ ซึ่งเป็นผู้ดับกิเลสทั้งปวง เป็นผู้ที่มีชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ไม่มีภพใหม่อีก คือ เมื่อดับขันธปรินิพพานแล้ว จะไม่มีการเกิดอีก บุคคลผู้ที่เป็นพระอรหันต์ ท่านมีคุณลักษณะที่สำคัญอยู่สองประการ (ตามข้อความที่แสดงไว้ในอรรถกถา ทีฆนิกาย มหาสมัยสูตร เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๙๒) ดังนี้ คือ "สำหรับพวกผู้สิ้นอาสวะแล้ว ย่อมมีอาการสองอย่าง คือ .-
๑. เกิดความคิดว่า ชาวโลกพร้อมกับเทวดา จะพึงรู้แจ้งแทงตลอดคุณวิเศษที่เราได้เฉพาะแล้ว พลันทีเดียว
๒. ไม่ประสงค์จะบอกคุณที่ตนได้แล้วแก่ผู้อื่น เหมือนคนที่ได้ขุมทรัพย์ (ไม่ประสงค์จะบอกแก่ผู้อื่น) ฉะนั้น"
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ผู้ที่ได้ศึกษาพระธรรมแล้วก็จะไม่อวดคุณธรรมของตัวเอง ยิ่งถ้าเป็นพระภิกษุอวดคุณธรรมที่ไม่มีในตนแล้ว ก็อาบัติปาราชิก คือ ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ที่สำคัญหนทางที่จะดับกิเลสแสนยากและอีกไกลแสนไกลกว่าจะถึง ยกเว้นพระพุทธเจ้าตอนประสูติก็เปล่งวาจาว่า เราเป็นบุคคลที่ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
บุคคลผู้ที่เป็นพระอรหันต์ ท่านมีคุณลักษณะที่สำคัญอยู่สองประการ คือ ๑. เกิดความคิดว่า ชาวโลกพร้อมกับเทวดา จะพึงรู้แจ้งแทงตลอดคุณวิเศษที่เราได้ เฉพาะแล้ว พลันทีเดียว จากความคิดเห็นที่ ๖ ยังไม่เข้าใจค่ะ ช่วยอธิบายด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
ตอบความเห็นที่ ๙
คือท่านไม่มีความตระหนี่ อยากจะให้ทุกคนบรรลุเป็นพระอรหันต์เหมือนกับตัวท่านครับ