การศึกษาที่เรียกว่าเปรียญธรรม

หลักสูตรการศึกษาของพระภิกษุในประเทศไทยที่สืบกันมานานแล้วมี ๒ อย่าง

คือ นักธรรม ๑ บาลี ๑ หลักสูตรนักธรรมมี ๓ ขั้นคือ ตรี โท เอก เนื้อหาประกอบด้วยพระสูตรและพระวินัยตามสมควร ส่วนบาลีนั้นแบ่งเป็น ๙ ชั้นเรียกว่าเปรียญประโยค ๑ เป็นต้น เนื้อหาของเปรียญธรรมเป็นเรื่องของหลักไวยากรณ์ภาษาบาลี การแปลภาษาบาลีเป็นไทย การแปลภาษาไทยเป็นภาษาบาลี โดยที่เนื้อหาที่แปลนั้น ก็เป็นคัมภีร์อรรถกถาของพระสูตรบ้าง อรรถกถาพระวินัยบ้าง รวมถึงอภิธรรมมัตถสังคหะและฎีกาด้วย เนื่องจากในสมัยก่อนพระธรรมวินัยหรือพระไตรปิฎกและอรรถกถาฎีกา ยังไม่ได้แปลมาเป็นภาษาไทย ผู้ที่จะศึกษาพระธรรมนั้นต้องศึกษาผ่านภาษาบาลี การศึกษาภาษาบาลีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในยุคก่อน แต่ปัจจุบันนี้พระไตรปิฎกและอรรถกถาคัมภีร์ต่างๆ ได้แปลมาเป็นภาษาไทยเป็นส่วนมากแล้ว เราคนไทยสามารถศึกษาพระธรรมจากภาษาไทยได้ โดยไม่ต้องศึกษาภาษาบาลีก็ได้ครับ

ขอบพระคุณครับ

ขออนุโมทนาค่ะ

ส่วนหนึ่งเป็นการศึกษาพระไตรปิฏก เช่น คาถาธรรมบท พระวินัยปิฏก มังคลัตถทีปนี ฯลฯ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

หลักสูตรเปรียญธรรมของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบันนี้ หลักของการศึกษาเริ่มจากบาลีไวยากรณ์ซึ่งเป็นหลักเบื้องต้นของการศึกษาภาษาบาลีที่จะทำให้เข้าใจการเรียนการศึกษาภาษาบาลีได้เป็นอย่างดี ทั้งการแปล และการแต่งภาษาบาลี โดยแต่ละชั้นประโยค (ประโยค ๑ - ๒, ป.ธ. ๓ ถึง ป.ธ. ๙) ได้มีหลักสูตรที่เกี่ยวกับคำสอนในทางพระพุทธศาสนาอยู่ทุกชั้น ไม่ว่าจะเป็นพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พระวินัยปิฎก มังคลัตถทีปนี วิสุทธิมรรคและอภิธัมมัตถสังคหะ ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้ตั้งใจศึกษา และมีความเข้าใจสภาพธรรมอย่างถูกต้อง แต่จะไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ศึกษาเพื่อหวังชื่อเสียง ลาภ สักการะซึ่งเป็นการเพิ่มมานะเพิ่มกิเลสให้กับตัวเอง พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นเรื่องที่ละเอียด ยากที่จะเข้าใจ จึงต้องอาศัยการฟัง การศึกษาบ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง สั่งสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

ขออนุโมทนาค่ะ