กุศล เป็นปัจจัยให้เกิด อัพยากตธรรม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการถอดเทป การบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ณ ตึกสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๒๕ โดย คุณย่าสงวน สุจริตกุล
สำหรับ กุศลเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอัพยากตธรรม อัพยากตธรรมก็ได้แก่ จิตและเจตสิก ชาติวิบากได้แก่ จิตและเจตสิก ชาติกิริยาได้แก่ รูปธรรม แต่สำหรับอุปนิสสยปัจจัยเป็นปัจจัยให้เกิดจิตและเจตสิก ซึ่งเป็นนามธรรมเท่านั้น ไม่เป็นปัจจัยให้เกิดรูปธรรม อุปนิสยยปัจจัย เป็นปัจจัยให้ปัจจยุบันนธรรมคือ จิตและเจตสิกเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น สำหรับผู้ที่มีกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอัพยากตธรรมคือ เกิดวิบากจิตเป็นไปได้ไหมคะ อย่างท่านที่จะทำบุญอาจจะต้องเสวยทุกขเวทนาทางกายได้ไหม ได้ ต้องลำบาก ต้องเดือดร้อน ต้องแสวงหา
ถ้าท่านจะไปนมัสการสังเวชนียสถานจะทราบว่าในที่บางแห่ง สถานที่พักไม่สะดวกเลย แต่ท่านมีกุศลสัทธาที่จะไปนมัสการสังเวชนียสถาน นั่นเป็นกุศลจิตแต่เป็นปัจจัยให้เกิดทุกขกายวิญญาณ เช่น ที่เมืองสาวัตถีที่พักไม่สะดวกเลย ถ้าอยากจะพักที่อื่นก็จะได้นมัสการพระเชตวันมหาวิหารในระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็รีบกลับที่พักที่อื่นที่สะดวกสบาย
แต่ถ้าอยากจะพักที่ใกล้ๆ พระเชตวันมหาวิหารก็จะต้องพักที่โรงแรมที่เมืองสาวัตถี ซึ่งเป็นโรงแรม ที่ไม่สะดวกสบายด้วยประการทั้งปวง เป็นโรงแรมซึ่งเป็นบ้านของมหาราชาในอดีต เก่าแก่มาก แล้วทุกอย่าง ก็ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเลย ห้องน้ำไม่สะดวก ห้องนอนมีจริงแต่มุ้งไม่มีเลย และถ้าไปหลายๆ คน ห้องหนึ่งก็ต้องนอนกันอย่างน้อย ๘ คน ๙ คน หรือ ๑๐ คนแล้วแต่จำนวน ของผู้ที่ไป มุ้งไม่มีทุกคนต้องห่อผ้าพันตัวเองเพื่อกันยุงกัด
นั่นก็เป็น กุศล ที่เป็นปัจจัยให้เกิดอัพยากตธรรม คือแล้วแต่ว่าจะเป็นกุศลวิบาก หรือ อกุศลวิบาก ก็ได้
หรือว่า ท่านที่ต้องการจะกระทำกุศล แต่ว่าจะต้องทำด้วยสุจริตไม่ใช่การคดโกง เพราะฉะนั้น ท่านก็ต้องมีความพากเพียร ในการแสวงหาปัจจัยที่จะทำกุศล อาจจะต้องลำบากแต่เป็นปัจจัย ที่ได้มาโดยสุจริต
เพราะฉะนั้น กุศลนั่นเอง ก็เป็นปกตูปนิสสยปัจจัยให้เกิดอัพยากตธรรมคือ อกุศลวิบาก
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลแด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์