ต่างกันที่ปัญญา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดยคุณย่าสงวน สุจริตกุล
ขณะที่รู้ชัดกับขณะที่ไม่รู้ชัดต่างกันที่ ปัญญาที่แทงตลอดลักษณะของอารมณ์ของสติปัฏฐานในขณะที่ "สติ" กำลังระลึกรู้ แต่ว่าลักษณะของสติก็ยังเหมือนเดิม คือเป็นสภาพที่ระลึกรู้ ในลักษณะ ของสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่เมื่อปัญญายังไม่รู้ชัดก็จะต้องอบรมจนกระทั่งถึงขั้นที่รู้ชัด เช่น ปัญญา ของท่านทั้งหลายที่ได้รู้แจ้งในอริยสัจจธรรมแล้วรู้ชัดพร้อมสติ ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามปกติตามความเป็นจริงในขณะนี้นั่นเอง
เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า อวิชชานี้ ช่างมากมายจริงๆ สภาพธรรมไม่ใช่ตัวตน สภาพธรรมแต่ละลักษณะเป็นสภาพธรรมแต่ละลักษณะ สภาพธรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีปัจจัยทำให้เกิดขึ้น แล้วก็ดับไปสภาพธรรมกำลังเกิดดับ ตามเหตุ ตามปัจจัย
แต่อวิชชามีมากมายเหลือเกิน ทำให้ไม่ประจักษ์ในความเกิดดับของสภาพธรรมที่กำลังเกิดดับอยู่ และอวิชชาซึ่งมีมากมายยิ่งกว่านั้น ก็ทำให้ไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าลักษณะนั้นไม่ใช่ตัวตนเป็นแต่เพียงลักษณะของนามธรรมบ้าง รูปธรรมบ้าง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
อวิชชา มีมากมาย อวิชชา มีกำลังมาก อวิชชา เกิดขึ้นบ่อยแล้วทำให้ "สติ" มีโอกาสเกิดขึ้นน้อย เพราะการสะสมของสติ มีมาน้อยกว่าการสะสมของ อวิชชา
เพราะฉะนั้นการละกิเลสและการขัดเกลากิเลสไม่ใช่เรื่องเร็ว แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจจริงๆ ในขัอปฏิบัติแล้วต้อง "รู้" จริงๆ ปัญญา ที่เกิดขึ้นเท่านั้นที่จะละคลาย และดับกิเลสได้ ถ้า ปัญญา ยังไม่เกิด ก็ต้องอบรมไปจนกว่า ปัญญา จะเกิด.
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์
อวิชชา มีมากมาย อวิชชา มีกำลังมาก อวิชชา เกิดขึ้นบ่อยแล้วทำให้ "สติ" มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยเพราะสะสมของสติ มีมาน้อยกว่าการสะสมของ อวิชชา ต้องอาศัยการอบรมด้วยปัญญาไปทีละเล็กละน้อย ค่อยๆ บ่อยๆ เนืองๆ
ขออนุโมทนาค่ะ
ถึงแม้ว่าอวิชชาจะมีมากมายมหาศาล แต่เวลาที่วิชาคือ ความรู้เกิดมีกำลังมากกว่าอวิชชา เพราะสามารถดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉทคือ ไม่เกิดอีกเลยค่ะ
ปัญญา ที่เกิดขึ้นเท่านั้นที่จะละคลายและดับกิเลสได้ ถ้าปัญญายังไม่เกิดก็ต้องอบรมไปจนกว่าปัญญาจะเกิด
ขออนุโมทนาครับ
การละกิเลส และ การขัดเกลากิเลส ไม่ใช่เรื่องเร็ว แต่เป็นเรื่องของ การเข้าใจจริงๆ ในขัอปฏิบัติแล้วต้อง "รู้" จริงๆ ปัญญา ที่เกิดขึ้นเท่านั้นที่จะละคลาย และ ดับกิเลสได้
ถ้าปัญญา ยังไม่เกิด ก็ต้องอบรมไปจนกว่า ปัญญาจะเกิด
ปัญญา ความเห็นถูกเกิดน้อย
กว่าจะเจริญมั่นคงใช้เวลานาน
๒ คำเพื่อความอดทน
ไม่ท้อถอยจำได้แม่น
จิรกาลภาวนาและแสนกัปป์
ขออนุโมทนาคุณปริศนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
อ้างอิงจาก : หัวข้อ โดย ธรรมทัศนะ
ถ้ามิได้เป็นผู้ศึกษาพระธรรม มิได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ก็ไม่สามารถที่จะออกจากกรงของกิเลสและไม่สามารถออกไปจากสังสารวัฏฏ์ได้ เพราะมีอวิชชา (ความไม่รู้) บ่อยๆ เรื่อยๆ เนืองๆ และอีกประการหนึ่ง ในชีวิตประจำวันกิเลส อกุศลนานาประการ ก็มีแต่จะสั่งสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวันๆ
อนุโมทนาทุกท่านคะะ