ความยากของการเจริญสติปัฏฐาน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"มูลคันธกุฎี"ที่ประทับ ๑๙ พรรษาของพระผู้มีพระภาคเจ้าณ พระเชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถีสร้างถวายโดย ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรม โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดยคุณย่าสงวน สุจริตกุล
การที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามเหตุตามปัจจัย อันนี้ แสนยาก เพราะว่า "ปัญญา" จะต้องค่อยๆ อบรม จนกว่าจะมีกำลังที่จะระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่ว่าจะ กุศลธรรม หรือ อกุศลธรรม หรือ อัพยากตธรรม นั่นก็คือ สภาพธรรม ทั้งหลายไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน
วิธีที่จะอบรมให้ ปัญญาคมกล้า เป็นพละ ก็คือ เริ่มระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามปกติ ตามความเป็นจริง"ให้เป็นอุปนิสสัย" ถ้าไม่อบรม ก็ไม่สามารถที่จะระลึกได้สักทีก็ยังคงเป็น "สิ่งที่ยาก" อยู่นั่นเอง
"สิ่งที่ยาก" จะง่ายขึ้น ก็โดย การอบรม โดยการ ไม่เลือก อารมณ์ โดยการ ไม่เลือก สถานที่โดยการ ไม่เลือก เวลา
"สติ" สามารถที่จะเกิด เช่นเดียวกับโลภะ โทสะ โมหะ และอกุศลทั้งหลาย ซึ่งก็สามารถที่จะเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้ เพราะ สภาพธรรมทั้งหลายเป็น อนัตตา
"สติ" ก็ย่อมเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏ ในสถานที่ไหน เวลาไหน ก็ได้แล้วก็ค่อยๆ อบรมไป จนกว่า "ความรู้ คือ ปัญญา" จะเพิ่มขึ้น แต่จะต้องเป็นการ "อบรมเจริญสติปัฏฐาน"คือ การระลึกรู้ "ลักษณะของสภาพธรรม" ที่กำลังปรากฏ ในขณะนี้ตามปกติ ตามความเป็นจริง
อานันทโพธิ์ต้นไม้ที่มีอายุยืน ตั้งแต่สมัยพุทธกาลณ พระเชตวันมหาวิหารอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์
"สิ่งที่ยาก" จะง่ายขึ้น ก็โดย การอบรม โดยการ ไม่เลือก อารมณ์ โดยการ ไม่เลือก สถานที่โดยการ ไม่เลือก เวลา
อนุโมทนาคะ
ถ้าผิดไปจากปกติ ก็ไม่ใช่สติปัฏฐานหมายถึง ไม่ได้เป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐานแต่เจริญโลภะที่ประกอบด้วยความเห็นผิดรวมถึงอกุศลทุกประการนี้เป็นความง่าย !
เป็นผู้มีปกติเจริญสติปัฏฐานหมายถึง สติปัฏฐานนั้นแหละ เจริญขึ้นอย่างเป็นปกติชักนำให้เกิดการเจริญขึ้นของกุศลทุกประการนี้เป็นความยาก !
...ขออนุโมทนาครับ...
วิธีที่จะอบรมให้ ปัญญาคมกล้า เป็นพละ ก็คือ เริ่มระลึกรู้ ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามปกติ ตามความเป็นจริง "ให้เป็นอุปนิสสัย" ถ้าไม่อบรมก็ไม่สามารถที่จะระลึกได้สักที ก็ยังคงเป็น "สิ่งที่ยาก" อยู่นั่นเอง
ขออนุโมทนาครับ ผมไปอ่านพระไตรปิฎก ได้แต่คิด ในข้อธรรมะต่างๆ ไม่ได้มนสิการน้อมไปในการศึกษาอบรม มาอ่านตรงนี้ก็ได้สติ ก็ยินดีครับ มรรคนี้ไม่ผิด ท่านอาจารย์เมตตาสอน มั่นคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยครับ