ณ ประตูเมืองสังกัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากหนังสือ พระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา "คุยกันวันพุธ เล่มที่ ๓๐ "โดยคณะสหายธรรมมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย
พรรษาที่ ๗ ประทับ ณ ดาวดึงส์พิภพ
ขณะที่พระศาสดา ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ณ กรุงสาวัติถี ทรงดำริว่าพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตหลังจากแสดงยมกปาฏิหาริย์แล้วจักจำพรรษา ณ ที่ใด ทรงทราบว่าจำพรรษา ณ ดาวดึงส์พิภพเพื่อแสดงธรรม โปรดพระพุทธมารดา
พระศาสดาทรงแสดงธรรมโปรดพระพุทธมารดาโดยนัยนี้เรื่อยไปตลอดพรรษา พระศาสดาทรงแสดงพระอภิธรรมโดยทำนองนั้นตลอดไตรมาส ในกาลจบพระธรรมเทศนาการตรัสรู้ธรรมได้มีแก่เทวดามากมายพระพุทธมารดาได้ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล.
ครั้นใกล้เวลา ออกพรรษา
บริษัททั้งหลายที่คอยเฝ้ารับเสด็จอยู่ตลอดเป็นเวลา ๓ เดือนได้ขอให้ท่านพระโมคคัลลานะ ขึ้นไปทูลถาม วันเสด็จกลับลงมา
ท่านพระโมคคัลลานะ ขึ้นไปทูลถาม พระศาสดาว่าพระองค์จักเสด็จลงเมื่อใด พระเจ้าข้า พระศาสดาตรัสถามถึงท่านพระสารีบุตร ทรงทราบว่าอยู่ที่สังกัสสนครจึงตรัสกับท่านพระโมคคัลลานะว่าในวันที่ ๗ จากนี้เราจักลงที่ประตูเมืองสังกัสสะในวันมหาปวารณาผู้ที่ใคร่จะพบเรา ก็จงไป ณ ที่นั้นเถิด
พระศาสดา เสด็จลงจากดาวดึงส์ ณ ประตูเมืองสังกัสสะซึ่งอยู่ห่างจากกรุงสาวัตถี ๓๐ โยชน์ในวันมหาปวารณาขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
อันเป็นพระพุทธกิจที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่ทรงละ สถานที่เหยียบพระบาท ณ ประตูเมืองสังกัสสะชื่อว่า "อจลเจติยสถาน"
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่และสรรพสัตว์
(ขออนุโมทนาท่านผู้เอื้อเฟื้อรูปภาพ ค่ะ)
พระสถูป ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์ณ นครสาวัตถีก่อนเสด็จขึ้นไปจำพรรษา ณ ดาวดึงส์พิภพเพื่อทรงโปรด พระพุทธมารดา
ขอนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงสละนิพพานสุข อันมีในที่ใกล้พระหัตถ์ เมื่อครั้งยังเป็นพระสุเมธโพธิสัตว์ ทรงบำเพ็ญบารมีอันกระทำได้ยาก ทรงยอมเวียนว่ายในสังสารวัฎฎ์ ตลอดกาลนาน แสนนาน เพียงเพื่อช่วยให้สัตว์ทั้งหลายได้บรรลุธรรมพ้นจากทุกข์
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาค่ะ