อารมณ์ที่จิตรู้ได้ทั้ง ๒ ทวาร
ก. อย่างทางตาขณะที่เห็น พอเห็นเป็นปากกาก็แสดงว่า คำว่าปากกาเป็นทางมโนทวารแล้ว
สุ. ยังไม่ได้คิดถึงคำว่าปากกาก็มีบัญญัติก่อนแล้ว ฉะนั้นบัญญัติจึงไม่ได้หมายเฉพาะแต่สัททบัญญัติ หรือนามบัญญัติซึ่งเป็นเสียงหรือเป็นคำ
ก. พอเห็นแล้วจำได้ นั่นก็บัญญัติแล้วใช่ไหม
สุ. ที่ชื่อว่าบัญญัติเพราะให้รู้ได้ด้วยประการนั้นๆ
ก. นั่นก็หมายความว่าทุกทวาร ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ต้องผ่านทางมโนทวารด้วยใช่ไหม
สุ. อารมณ์ทั้ง ๕ คือ รูปารมณ์ สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์นั้นจิตรู้ได้ ๒ ทวาร คือ จักขุทวาร วิถีจิตรู้รูปารมณ์แล้ว มโนทวารวิถีจิตก็รู้รูปารมณ์นั้นต่อ เมื่อภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว สัททารมณ์ คันธารมณ์ รสารมณ์ โผฏฐัพพารมณ์ จิตก็รู้ได้ ๒ ทวาร คือ เมื่อวิถีจิตทางทวารนั้นๆ รู้อารมณ์นั้นๆ แล้ว วิถีจิตทางมโนทวารก็เกิดขึ้นรู้อารมณ์นั้นๆ สืบต่อทางทวารนั้นๆ เมื่อภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว โดยนัยเดียวกัน
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป