ความเป็นมาของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
จุดเริ่มต้นและความเป็นมาของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
พ.ศ. ๒๕๐๙ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้รับเชิญจากภิกษุเขมานันทะ ชาวอเมริกัน ให้ร่วมกันสอนพระอภิธัมมัตถสังคหะเป็นภาษาอังกฤษ แก่ชาวต่างประเทศ ที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ พ.ศ. ๒๕๑๐ - พ.ศ. ๒๕๑๙ ท่านอาจารย์ได้รับเชิญจากภิกษุกิตติวุฒโฑ (ปัจจุบันเป็นพระเทพกิตติปัญญาคุณ) ให้บรรยายแนวทางวิปัสสนา ที่ตำหนักสมเด็จ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ และมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัยได้นำเทปคำบรรยายนี้ออกอากาศทางสถานีวิทยุยานเกราะ ๗๙๒ ในระหว่างนี้มีชาวต่างประเทศที่พำนักอยู่ในประเทศไทยและเดินทางมาประเทศไทย สนใจศึกษาพระพุทธศาสนา ขอสนทนากับท่านอาจารย์ จึงเกิดกลุ่มสนทนาธรรม (Dhamma Study Group) และกลุ่มนี้ได้ร่วมกันเผยแพร่พระธรรมโดยอัดเทปสนทนาธรรมให้แก่สหายธรรมที่อยู่ต่างประเทศ และพิมพ์หนังสือธรรมขึ้นหลายเล่ม พ.ศ. ๒๕๑๙ - พ.ศ. ๒๕๔๓ ท่านอาจารย์บรรยายแนวทางเจริญวิปัสสนาที่ห้องประชุมตึกสภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย และมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันเช่าเวลาของสถานีวิทยุ สทร. ๒ บางนา นำเทปคำบรรยายนี้ออกอากาศตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ถึงปัจจุบัน เมื่อผู้ดำเนินงานของกลุ่มสนทนาธรรมแยกย้ายกันกลับประเทศของตน ได้มอบเงินให้แก่คณะศึกษาธรรมเพื่อเป็นค่าพิมพ์หนังสือต่อไป พ.ศ. ๒๕๒๗ คณะศึกษาธรรมได้รับอนุมัติให้เป็น มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (Dhamma Study and Propagation Foundation) เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม๒๕๒๗ โดยมีสำนักงานที่บ้านท่านอาจารย์สุจินต์ เลขที่ ๘๓ ซอยพัฒนเวศม์ สุขุมวิท๗๑ วันที่ ๒๐ กรกฎกาคม ๒๕๔๒ ได้รับอนุมัติให้แก้ไขชื่อภาษาอังกฤษของมูลนิธิฯเป็น Dhamma Study and Support Foundation วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๓มูลนิธิมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ บุคคลโล ธนบุรี กทม. ๑๐๖๐๐
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอกราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา ด้วยครับ
ขออนุโมทนาครับ
เป็นมนุษย์สุดดีมีโอกาสมีปัญญาฉลาดกว่าสัตว์ทั้งผอง ขอชวนเชิญให้ท่านได้ไตร่ตรอง รับพระธรรมมาประคองกับดวงใจ เป็นอุปนิสัยปัจจัยในภพหน้า เป็นปัญญาบารมีชี้แจ่มใส เพื่อไม่หลงเพลิดเพลินเมื่อเดินไป เชิญท่านไซร้เปิดใจรับสดับธรรม.
ดัดแปลงจาก บทกลอนที่ใช้เปิดสถานีวิทยุยานเกราะทุกเช้า (ในอดีต)
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับและกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้นำความเห็นถูกมาเผยแพร่ให้บุคคลต่างๆ ได้เข้าใจ จนกระทั่งปัจจุบันได้มีการสนทนา ที่มูลนิธิเป็นประจำครับ ขออนุโมทนาอาจารย์กาญจนาด้วยครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ
รายการธรรมะที่มูลนิธิฯ...ทุกวันเสาร์
วันเสาร์ที่มูลนิธิ ฯ มีสนทนาเป็นภาษาอังกฤษ
รายการธรรมะที่มูลนิธิฯ...ทุกวันอาทิตย์
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาพี่กาญจนาด้วยครับ และขอเพิ่มเติมข้อมูลดังนี้
ความจริงแล้วถ้าจะย้อนถอยไปอีกก็คือ ท่านอาจารย์เริ่มเรียนพระอภิธรรมที่พุทธ-สมาคมวัดสามพระยา เมื่อปี พศ. ๒๔๙๖ เมื่อศึกษาได้ไม่นานท่านอาจารย์แนบมหานีรานนท์ ก็ได้มอบให้บรรยายธรรมตามสถานที่ต่างๆ เช่น สภาวัฒนธรรมแห่งชาติทันฑสถานหญิงคลองเปรม เป็นต้น และ เมื่อปี พศ. ๒๕๐๖ บรรยายพระอภิธรรมที่ศูนย์ค้นคว้าพระพุทธศาสนา และสมาคมสงเคราะห์ทางจิต และต่อมาบรรยายแนวทางเจริญ-วิปัสสนาที่ตำหนักสมเด็จวัดมหาธาตุ ตามข้อความในกระทู้ที่พี่กาญจนาลงไว้ครับ
เริ่มแรกจดทะเบียนเป็นมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา สำนักงานอยู่ที่ สุขุมวิท 71 บ้านท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ต่อมาก็ย้ายสำนักงานมาที่บ้าน อาจารย์ดวงเดือน บารมีธรรม ภายหลังมีอาคารก็ย้ายมาอยู่ที่ 174/1 ซอยเจริญนคร 78 ตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบันนี้ค่ะ
ขอเพิ่มเติมจากพี่แดง นะครับ ในช่วงที่ยังไม่ได้เป็น มศพ. นั้น การเผยแพร่พระธรรม จะใช้นามว่า " คณะศึกษาธรรม " โดยมี คุณกุลิน คงสวัสดิ์ และ คุณประพันธ์ ธรรมจีรัง ช่วย ส่งหนังสือที่จัดพิมพ์ โดย คณะศึกษาธรรม ให้แก่ผู้ขอมาทางไปรษณีย์ โดยเฉพาะ คุณประพันธ์ ได้ช่วย อัดเทป ถ่ายเทปนำไปออกอากาศ (สมัยนั้นใช้เทป รีล ซึ่ง เครื่องก็ใหญ่ ม้วนเทปก็ใหญ่) อ.ดวงเดือน ยังเคยหิ้วม้วนเทปรีลออกอากาศ ไปส่งที่ สทร.๒ บางนา ด้วยตนเอง เลยครับ สมัยนั้น ก่อนจะไปถึงห้องส่งของสถานีวิทยุ ต้องเดินผ่านสนามกอล์ฟด้วย ท่าน อ.สุจินต์ ก็ตัดต่อเทปรีลด้วยตนเองด้วยครับ (เอ็มพี ๓ ชุดเทปวิทยุตั้งแต่ แผ่นที่ ๑ - ๓๔ ก่อนจะมาเป็นแผ่นนั้น ขั้นตอนแรก ท่าน อ.สุจินต์ ต้องเลือกเนื้อหา และตัดต่อเสียงจากเทปรีลม้วนใหญ่ด้วยตนเองครับ) และเทปต้นฉบับซึ่งเป็นเทป รีลม้วนใหญ่ๆ ก็จะเก็บไว้ที่บ้านของท่าน อ.สุจินต์ ในสมัยนั้น
สำหรับคุณศุกล กัลยาณมิตร ก็ได้นำเทปรีลต้นฉบับ จาก ท่าน อ.สุจินต์ มาถ่ายเทป นำไปออกอากาศที่ สถานีวิทยุ สวพ. เอฟเอ็ม ๙๑ เป็นหลัก และ สถานีตามต่างจังหวัด โดยได้รับการสนับสนุนทุนทรัพย์จาก คุณหญิงณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ล่วงลับ ส่วนอีกท่าน คือ พ.อ.ธงชัย แสงรัตน์ ก็เป็นท่านหนึ่งที่สนับสนุน มศพ.โดยออกค่า ใช้จ่ายส่วนตัว ในด้านเทปคัสเส็ทออกอากาศตามต่างจังหวัดเหมือนกัน จนกระทั่งมาถึงใน ยุค ที่ เทปคัสเส็ท แพร่หลาย (อาจจะเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ เทปคัสเส็ท) คือประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นต้นมา
เพื่อนรักกัน ๒ ท่าน คือคุณประวิทย์ ประภานุกูล และคุณสมนึก ภัทรธรรมบาล ได้
สนับสนุน มศพ. โดยใช้ ที่บ้าน (ซึ่งเป็นทั้งที่พัก และสำนักงานประกอบธุรกิจ) อยู่แถว ซอยสุขุมวิท ๑๐๑ (ซอยปุณณวิถี) ใกล้แยกบางนา เป็นสถานที่บันทึกเทป โดยส่งออกอากาศที่ สทร.๒ บางนา เป็นหลัก และทั้งคุณประวิทย์ และคุณสมนึก ได้ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์เครื่องสียง..... ฯลฯ โดย เจ้าหน้าที่ มศพ. ในยุคนั้น ก็มีคุณณรงค์ หอมจันทร์ (พี่ชาย คุณอรรณพ- คุณธิดารัตน์ หอมจันทร์) มี คุณอนันต์ พฤกษ์พนาสันต์ (เพื่อนพระประเชิญ สมัย บวชเป็นพระภิกษุด้วยกัน)
นอกจากเป็นสถานที่บันทึกเทปแล้ว ที่นี่ ก็ยังเป็นสถานที่เก็บหนังสือธรรม ของ มศพ. ด้วย แต่ถ้าผู้ใดต้องการหนังสือ ของ มศพ. ทางไปรษณีย์ ก็ต้องติดต่อมาที่ บ้าน อ.ดวงเดือน บารมีธรรม เลขที่ ๑๗๔ ซ.เจริญนคร ๗๘ สมัยนั้น มีคุณวรรณี แซ่โง้ว เป็นผู้ช่วย ห่อหนังสือ ส่งทางไปรษณีย์ ครับ
ที่หน้าบ้าน อ.ดวงเดือน ก็จะมีป้ายเล็กๆ (ป้ายสีขาว ตัวอักษรสีน้ำเงิน) เขียนว่า "มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา"
ความอุตสาหะของทุกท่าน นับแต่วันเริ่มต้น ยังคงงดงามมาจนถึงทุกวันนี้ ขอกราบอนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะ ด้วยความนับถือเป็นอย่างสูงค่ะ
อนุโมทนา ในความงาม แห่งกุศลจิต อันมิ่งมิตร ก่อไว้ ในสังสารฯ อีกปัญญา บารมี ที่เจือจาน ขอกล่าวขาน ด้วยถ้อยคำ พร่ำ "อนุโมทนา"
ขออนุโมทนาคุณพรชัยที่กรุณาเพิ่มเติมรายละเอียดของบุคคลที่ได้มีส่วนทำให้มูลนิธิฯ เติบใหญ่ขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อได้ทราบแล้วก็ทำให้เกิดกุศลจิตอนุโมทนาที่ท่านได้เสียสละทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังความคิด ขอให้ท่านเหล่านั้นรวมทั้งพวกเราทุกคนด้วย มีความเห็นถูก มีความมั่นคงในหนทางที่ถูกต้อง และช่วยกันเผยแพร่หนทางนี้ออกไปให้ผู้ที่มีอุปนิสัยสะสมมาได้เห็นทางนี้ต่อไป
อยากจะขอเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย สำหรับท่านผู้ได้ทำคุณประโยชน์แก่มูลนิธิ ฯ แม้ว่าท่านจะล่วงลับไปแล้ว ท่านคือ คุณหญิงณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ท่านเป็นผู้มีศรัทธามั่นคงในการเจริญสติปัฏฐานและท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ท่านเปิดบ้านของท่านเป็นที่สนทนาธรรมทุกวันเสาร์ต้นเดือน เป็นการสนทนาธรรมทั้งวัน และเลี้ยงอาหารกลางวัน เป็นเวลาถึง ๑๐ ปี ท่านยังเปิดบ้านของท่านที่เขาเต่า หัวหินและที่หาดเสี้ยว เชียงใหม่ เป็นที่สนทนาธรรมในบางครั้งด้วย และนอกจากนั้นท่านยังเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือของมูลนิธิหลายเล่ม เช่น "แด่ผู้มีทุกข์" เป็นต้น
อีกท่านหนึ่งคือ คุณจารุพรรณ เพ็งสีทอง ท่านทำหน้าที่เลขานุการของมูลนิธิฯเป็นเวลานาน
อีกท่านหนึ่งคือ คุณน้าประมัย โชติวรรณ ท่านเป็นผู้พิมพ์คำบรรยาย "แนวทางเจริญวิปัสสนา" ที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยาย ตั้งแต่ครั้งที่ ๑ - ๓๘๐ ซึ่งในขณะนั้นท่านต้องฟอกไตทุกอาทิตย์ ท่านพิมพ์จนกระทั่งท่านเสียชีวิต
และบุคคลสำคัญอีกผู้หนึ่ง ที่ยังมีชีวิตยืนยาวอยู่อย่างมีความสุข คือคุณป้าสงวนสุจริตกุล แม้ท่านจะมีอายุถึง ๙๓ ปีแล้ว ท่านก็ยังพากเพียรถอดเทปคำบรรยายธรรมและการสนทนาธรรมของท่านอาจารย์จนถึงทุกวันนี้ คาดว่าท่านคงถอดเทปมานานเกือบ ๕๐ ปีแล้ว การถอดเทปของท่านมีประโยชน์แก่คนรุ่นหลังมาก เพราะได้อ่านคำบรรยายที่มีคุณค่านั้นซ้ำอีกหลายๆ ครั้ง และเมื่อมารวบรวมทำเป็นหนังสือก็สะดวกขึ้นมาก
ในยุคหลังๆ นี้ ใครมีข้อมูลว่า ใครทำอะไร ช่วยกันบอกกล่าวก็ดีนะคะ เพราะการระลึกถึงกุศลของคนอื่น เป็นเหตุให้เกิดกุศลอนุโมทนาได้เช่นกัน และเป็นการรวบรวมข้อมูลของมูลนิธิฯ อย่างละเอียดด้วย
ขออนุโมทนากับพี่แดงครับ
ที่ได้กล่าวถึงกุศลกรรมที่ประกอบด้วยปัญญาของแต่ละท่านด้วยอนุโมทนาจิต
กัลยาณมิตร คือ ทั้งหมดของพรหมจรรย์จริงๆ ได้อ่านกระทู้นี้ และกระทู้ก่อสร้างมูลนิธิฯ รู้สึกซาบซึ้งและอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งกับทุกๆ ท่านทีได้ร่วมกันเจริญกุศล เพื่อประ- โยชน์แก่ผู้ใฝ่ศึกษาพระสัทธรรม ทุกท่านมั่นคงในหนทางที่ถูกต้อง เสียสละเพื่อ ผู้อื่น ทั้งอดทน วิริยะอุตสาหะ เพื่อช่วยกันจรรโลงและเผยแพร่พระสัทธรรม จนถึง ปัจจุบัน ซึ่งมีความสะดวกสบายมากๆ ในการศึกษา มีสถานที่ทำการของมูลนิธิฯ เพื่อ สะดวกต่อการสนทนาธรรม รับหนังสือ เทป แผ่นซีดี เอ็มพี๓ วีซีดี เจริญกุศลทั้งขั้น ทาน ศีลและภาวนา ท่านอาจารย์สุจินต์ ท่านอาจารย์ดวงเดือน คณะวิทยากร เจ้า หน้าที่ และผู้เกี่ยวข้องตลอดจนสหายธรรม ต่างก็เปี่ยมด้วยเมตตาจิต กระตือรือล้น ที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ฯลฯ มีสื่อหลายช่องทาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ อิน เตรอร์เน็ต ล้วนแล้วแต่เพื่อความสะดวกของผู้ศึกษา ต้องขอกราบอนุโมทนา กราบขอบพระคุณทุกๆ ท่าน ทั้งที่เอ่ยนามและมิได้เอ่ยนาม พี่กาญจนา คุณพรชัย อ. ประเชิญ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล
ธรรมทานเลิศกว่าทานทั้งปวง
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ดิฉันรู้สึกปราบปลื้มยินดีในกุศลจิตและกุศลกรรมของท่านอาจารย์และผู้เกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน และต้องขออนุโมทนาในคุณประโยชน์และกิจกรรมทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับการเผยแผ่พระธรรมและการสืบทอดพระศาสนาที่ถูกต้อง ให้ดิฉันได้มีความรู้ความเข้าใจที่จะศึกษาพระธรรมที่ละเอียดและลุ่มลึก ยากที่ปัญญาปุถุชนของดิฉันจะเข้าใจได้ลึกซึ้ง แต่คุณประโยชน์ที่ได้รับ คือ ได้ศึกษากุศลจิตของตนเองทุกวัน และมีความเชื่อมากขึ้นมั่นคงขึ้นในการเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรมคำสอนค่ะ
ต้องกราบอนุโมทนาบุญมา ณ ที่นี้ค่ะ
ที่นี่น่ารื่นรมย์
ขอพระสัทธรรมอันงดงาม บังเกิดแต่ดอกบัว
คือพระโอษฐ์ของพระสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นที่พึ่งของสรรพสัตว์
ทำให้ใจของท่านทั้งหลายเบิกบาน
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ที่จะช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงตลอดไป
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนา ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างสูงสุด ผมปลื้มใจที่สุดที่ได้ฟังธรรมที่ท่านอาจารย์สอนมาตลอดตั้งแต่ปี 2513 เปรียบเหมือนผมได้พบและเดินทางไปในหนทางของชีวิตที่สว่างและสงบ ทำให้รู้สึกว่าชีวิตอยู่อย่างมีที่พึ่ง และมีเพี่อนที่สนใจศึกษาธรรมมากมายหลายท่าน ทำให้ชีวิตผมมีความลุขมากและอาจหาญร่าเริงยี่งนัก
ซาบซึ้งในกุศลจิตของทุกๆ ท่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ ขอกราบอนุโมทนา
บุญเก่าให้ผลแล้ว เมื่อได้พบท่านอาจารย์ ที่ได้ให้ความรู้เพิ่มขึ้นเป็นอันมาก ที่ได้รอมานาน 10 กว่าปี
กาลเวลาได้พิสูจน์ทุกสิ่ง ขอกราบอนุโมทนาในกุศลที่ทุกท่านได้กระทำแล้วค่ะ
ได้พบท่านอาจารย์สุจินต์แล้วปลื้มใจมา คำสอนที่ท่านนำมากล่าวเป็นสาระธรรม เสียดายที่เพิ่งได้ฟังไม่นานนี้เอง ทั้งๆ ที่มูลนิธินี้มีมานานแล้ว แต่ก็นับว่ายังไม่สายเกินไป ได้รับความเข้าใจจากคำสอนของพระพุทธองค์ที่อาจารย์ได้พร่ำสอน
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของสหายธรรมทุกท่าน
มูลนิธิเหมือนต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาให้อากาศที่บริสุทธิ์ฯลฯและจะเจริญ
เติบโตไปจนทั่วลูก-หลาน-เหลน-โหลนของเราต่อไป
ขออนุโมทนาค่ะ
เป็นกุศลวิบากของข้าพเจ้าโดยแท้ ที่ได้ฟังพระธรรมทางวิทยุโดยบังเอิญ และถูกใจ
เข้าใจในการบรรยายพระธรรม ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในวันนั้น จวบ
กระทั่งวันนี้
ขอนอบน้อม แด่พระรัตนตรัยอันเป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงสูงสุด ของข้าพเจ้า และขอกราบ
ระลึกถึง พระคุณที่คุณพ่อ คุณแม่มีต่อข้าพเจ้า อย่างใหญ่หลวงในชาตินี้
และขอนอบน้อมต่อท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ไว้ในสถานสูงยิ่งแห่งครูบา
อาจารย์ผู้มีคุณูปการอันยิ่ง
ขออนุโมทนาต่อท่านอาจารย์ฯ ด้วยความเคารพ อย่างสูงค่ะ
ขออนุโมทนาต่อท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูง
และท่านผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ
กราบเรียน ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ได้รับความกรุณาจากท่านอาจารย์สมพน ศรีวราทิตย์ กรรมการมูลนิธิ๑๐๐ ปีการฝึกหัดครูไทยและมูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง ๑๐๐ ปีการฝึกหัดครูไทย ได้มอบของที่ระลึกอันได้แก่ หนังสือ"แด่ผู้มีทุกข์"และ"เจ้ากรรมนายเวร"และซีดีธรรมะเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ อ่านแล้วยินดีอย่างยิ่งในความรู้และเข้าใจที่บังเกิดขึ้น จึงขออนุโมทนามายังคณะกรรมการและกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอให้การเผยแผ่พุทธศาสนาเป็นไปอย่างกว้างขวาง ในคนทุกหมู่เหล่า เพื่อก่อให้เกิดความสุขทั้งตนเองและผู้อื่นให้มากที่สุดค่ะ ขออนุโมทนาบุญค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน
ที่มีส่วนร่วมในการศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ปริศนา ตันทอง
ขอการขอบพระคุณและอนุโมทนาในมหากุศล ทั้งอาจารย์ ท่านผู้ใหญ่ กัลยาณมิตร ที่ได้เผยแพร่ธรรมมะให้รุ่นหลังอย่างเรา ด้วยวิระยะ อุตสาหะ จริงๆ แม้จะเกิดแล้วดับ แล้วก็ตาม สัญญาจำนี้จะทำให้เราไม่ท้อถอยที่จะศึกษาธรรมมะต่อไป นับเป็นกุศลวิบาก จริงๆ ที่ทำให้ทราบความเป็นมาเป็นไป ประทับใจมากครับ