การไหว้.....และการเจริญสติปัฏฐาน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถอดเทปโดยคุณย่าสงวน สุจริตกุล
เพราะฉะนั้น ข้อสำคัญที่สุด ลักษณะของสภาพธรรม ตามความเป็นจริงคือ "ลักษณะสภาพของจิต" ในขณะนั้น เป็นจิต ที่อ่อนโยน นอบน้อมโดยที่จะแสดงทางกาย หรือไม่แสดงก็ได้ แต่ "สติ" รู้ลักษณะของสภาพของจิตขณะนั้น ซึ่งก็ไม่ควรเป็นการแก้ตัว เพราะบางครั้ง ไม่ไหว้เพราะ "จิต" หยาบกระด้าง แต่บางครั้ง "จิต" อ่อนโยน
จะไหว้หรือไม่ไหว้แต่ "จิต" อ่อนโยน แต่บางครั้งที่ไหว้ "จิต" หยาบกระด้างก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น ควรที่จะระลึกรู้ "ลักษณะ" ของสภาพธรรมตามความเป็นจริง "ตรง" ต่อ "ลักษณะของจิต" ในขณะนั้น เพราะท่านไม่สามารถมีกุศลจิตได้ตามความต้องการหรือ มีกุศลจิตเกิดอยู่ได้ตลอดเวลาเพราะฉะนั้น ขณะไม่ไหว้ถ้าสติเกิดจะรู้ว่า ขณะที่ไม่แสดงออกทางกายแต่ "สภาพของจิต" ในขณะนั้น อ่อนโยนหรือว่าขณะนั้นเป็น "สภาพของจิต" ที่หยาบกระด้างเมื่อ "ตรงต่อลักษณะของสภาพธรรม" ในขณะนั้นๆ ตามความเป็นจริง ท่านจึงจะสามารถที่จะขัดเกลากิเลสของท่าน ได้ยิ่งขึ้น
เพราะเห็นชัดว่า สภาพจิตของท่าน ยังมีความหยาบกระด้างซึ่งเป็นอกุศลที่สะสมมามากมายเหลือเกิน เพราะฉะนั้น การเจริญสติปัฏฐานเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเพราะว่าจะทำให้รู้ "ลักษณะของจิต" ในขณะนั้น"ตรง ตาม ความเป็นจริง" ได้
ขออนุโมทนาขออุทิศกุศล แด่ คุณพ่อ คุณแม่
และสรรพสัตว์
ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ มีลูกเศรษฐีคนหนึ่งนอนป่วยพ่อก็ไม่ได้พาไปหาหมอเพราะเสียดายเงิน พระพุทธเจ้าทรงเห็นอุปนิสัยของเขา พระพุทธเจ้าจึงไปโปรด เดินผ่านให้ลูกเศรษฐีเห็น เขาเห็นแล้วเกิดความเลื่อนใส ยกมือไหว้พระพุทธเจ้า ตายไปก็ไปเกิดเป็นเทวดา มาเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า จึงได้บรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ
wannee.s ความคิดเห็นที่ 1
ในพระไตรปิฏกก็มีแสดงไว้ มีลูกเศรษฐีคนหนึ่งนอนป่วย พ่อก็ไม่ได้พาไปหาหมอเพราะเสียดายเงิน พระพุทธเจ้าทรงเห็นอุปนิสัยของเขา พระพุทธเจ้าจึงไปโปรด เดินผ่านให้ลูกเศรษฐีเห็น เขาเห็นแล้วเกิดความเลื่อมใส ยกมือไหว้พระพุทธเจ้า
ตายไปก็ไปเกิดเป็นเทวดา มาเฝ้าพระพุทธเจ้าและได้ฟังจากพระพุทธเจ้าจึงได้บรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
กุศลมีหลายระดับขั้น มีกำลังมากบ้าง น้อยบ้างเป็นปัจจัยให้เกิดการไหวไปของกาย วาจา ปรากฏเป็นการไหว้ก็ได้ ปรากฏเป็นการยิ้มแย้ม แจ่มใส ร่าเริง อ่อนโยนโดยไม่ได้ไหว้ก็ได้ ปรากฏเป็นการกล่าววาจาโดยไม่ได้ไหว้ก็ได้ หรือไม่ปรากฏอาการให้ผู้อื่นรู้ แต่ปรากฏความผ่องใสอยู่ภายในก็ได้ ผู้ที่มีปกติเจริญสติปัฏฐานย่อมระลึกรู้ตามความเป็นจริงในลักษณะของจิตที่เกิดในขณะนั้นว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
ขออนุโมทนาครับ
เพราะฉะนั้น การเจริญสติปัฏฐาน เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเพราะว่า จะทำให้รู้ "ลักษณะของจิต" ในขณะนั้น "ตรง ตาม ความเป็นจริง" ได้
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๕๙๑
๙. วันทนาสูตร ว่าด้วยการไหว้ ๓ อย่าง
[๕๙๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การไหว้ ๓ นี้ การไหว้ ๓ คืออะไร คือ ไหว้ด้วยกาย ๑ ไหว้ด้วยวาจา ๑ ไหว้ด้วยใจ ๑ นี้แลการไหว้ ๓
จบวันทนาสูตรที่ ๙
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์