กำลังขอกรรมฐานอยู่หรือเปล่า
ผู้สนใจศึกษาพระธรรมคงเคยได้ยินคำว่า กรรมฐาน หมายถึง ที่ตั้งแห่งการงาน (การอบรม) มี ๒ ประเภทคือ
๑. สมถกรรมฐาน หมายถึงการอบรมเจริญความสงบของจิตจนบรรลุฌานขั้นต่างๆ
๒. วิปัสนากรรมฐาน หมายถึงการอบรมเจริญปัญญาเพื่อเข้าใจความจริงที่กำลังปรากฎ
เพราะฉะนั้น ขอกรรมฐาน คือ ขออบรมเจริญปัญญาโดยการฟังพระธรรมให้เข้าใจความ จริงที่กำลังปรากฎขณะนี้นั่นเอง ท่านกำลังขอกรรมฐานอยู่หรือเปล่า
ถ้าเข้าใจจริงๆ ธรรมะทั้งหมดเป็นกรรมฐาน กรรมฐานหมายถึงที่ตั้งการงานทางใจ เช่น การรระลึกถึงความตายบ่อยๆ ทำให้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญสติปัฏฐานค่ะ
เพราะฉะนั้น ขอกรรมฐาน คือ ขออบรมเจริญปัญญา โดยการฟังพระธรรมให้เข้าใจความจริงที่กำลังปรากฎขณะนี้นั่นเอง ท่านกำลังขอกรรมฐานอยู่หรือเปล่า
ขออนุโมทนาค่ะ
โดยนัยนี้ ภรภาอรเป็นผู้ขอ และยังจะขออยู่เรื่อยๆ ยังจะขอไปอีกนานเท่านาน
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าเข้าใจจริงๆ ธรรมะทั้งหมดเป็นกรรมฐาน กรรมฐานหมายถึงที่ตั้งการงานทางใจ เช่น การรระลึกถึงความตายบ่อยๆ ทำให้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญสติปัฏฐานค่ะ ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง ธรรมะทั้งหมดเป็นกรรมฐาน ระลึกตามความเป็นจริงได้เมื่อใด ขณะใด สติปัฏฐานคือเมื่อนั้น ขณะนั้น
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาคุณ orawan.c
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง เป็นความจริง เป็นสิ่งที่มีจริง ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ทั้งทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ซึ่งความจริงทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ที่ทำให้ผู้ที่รู้แจ้งสามารถที่จะบรรลุถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้ ดังนั้น สภาพธรรมทั้งปวง จึงเป็นที่ตั้งของการอบรม คือเป็นที่ตั้งของสติสัมปชัญญะ ที่จะระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ดังนั้น การฟัง การศึกษาพระธรรม การได้ฟังในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ จนกระทั่งความเข้าใจเพิ่มขึ้นเจริญขึ้น ย่อมจะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้สติสัมปชัญญะ เกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ที่กล่าวว่า ขอกัมมัฏฐาน นั้น ก็คือ ขอโอกาสฟังพระธรรม เพื่อให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริงยิ่งขึ้น เพราะพระธรรมทั้งหมด เป็นกัมมัฏฐาน ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ