ธรรมบนโต๊ะอาหาร
เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๖ ต.ค. ๕๑ ไปฟังธรรมที่มูลนิธิฯ มีโอกาสร่วมทานอาหารกลางวันกับท่านอาจารย์สุจินต์ ระหว่างรับประทานอาหาร ท่านก็พูดธรรมให้ฟังด้วย รู้สึกดีมากๆ จนไม่อยากเก็บความรู้ที่ได้ในวันนั้นไว้คนเดียว ตอนหนึ่ง ท่านอาจารย์พูดว่า "รู้ไหมว่า หลับอยู่ตลอดเวลา เวลาทานข้าวก็หลับ เวลาพูดคุยก็หลับ เวลาคิดนึกก็หลับ" มีท่านผู้หนึ่งแย้งว่า "ตื่นเวลาฟังธรรม" ท่านอาจารย์ "เวลาฟังธรรมก็หลับค่ะ" อีกท่านพูดว่า "ตื่นเวลาเข้าใจธรรม" ท่านอาจารย์ "เวลาเข้าใจธรรมก็หลับค่ะ" อ้าว ! "เราร้องในใจ ท่านอาจารย์ "ตื่น...เวลาที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความป็นจริง ว่าไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล" อ้อ อย่างนั้นเราก็ไม่เคยตื่นเลยสินะ
ในสังสารวัฏฏ์อันยาวนานนี้ เคยตื่นสักขณะหนึ่งไหมนะ? ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ แต่เรารู้ตัวเองดีว่า ชาตินี้ยังไม่เคยตื่นเลยสักขณะเดียว เราคิดในใจ ท่านอาจารย์พูดเหมือนรู้ใจว่า "หลับมาเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์" เราเพิ่งเข้าใจคำว่า "พุทโธ" ที่เคยถูกสอนให้ท่องในใจ เวลากลัวภัย หรือเวลาต้องการได้บุญมาตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆ ตอนนั้นไม่รู้ความหมายเลยว่า "พุทโธ" หมายถึงอะไร พอโตขึ้นหน่อย ได้มาศึกษาธรรม ก็รู้ว่า "พุทโธ" แปลว่า "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" ก็คิดว่า ตัวเองเข้าใจความหมายของ "พุทโธ" แล้ว คิดว่า ตื่น ก็คือไม่หลับ เหมือนตื่นนอนอย่างนั้น
เพิ่งเข้าใจความหมายของผู้ตื่นวันนี้เอง ตื่น คือตื่นจากความไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม เมื่อรู้ จึงตื่น เมื่อตื่นจึงเบิกบาน เพราะไม่ยึดถือสภาพธรรมนั้นๆ ว่าเป็นตัวตน
กราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์มาด้วยความเคารพอย่างสูง ที่ท่านถ่ายทอดความเข้าใจธรรม ที่ท่านบอกว่า คัมภีร คือ ลึกซึ้ง ยากที่จะเข้าใจ มาอธิบายให้บัวในตมเข้าใจได้ในเวลาสั้นๆ แต่ความจริง ก็ต้องสะสมการฟังธรรมมาก่อนหลายสิบปีเหมือนกัน จึงจะเข้าใจได้
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์และคุณ kanchana.c ที่นำธรรมดีๆ มาให้อ่านครับ
ขออนุโมทนา
ถ้าเราไม่ได้ยินได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าเลย แม้หลับอยู่ก็ไม่รู้ว่าหลับ ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะหลงผิดคิดว่ากำลังตื่น ไม่รู้เลยว่ามืดบอดอยู่เพราะอวิชชา ถูกพัดให้จ่อมจมลึกลงไปในวัฏฏะเพราะตัณหา หลับไหลอย่างสนิทเพราะกิเลสที่สั่งสมมาที่เป็นปัจจัยให้หลงลืมสติ จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเป็นผู้ที่ตื่นยาก เพราะหนาทึบไปด้วยอกุศลทั้งวันยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นความต่างระหว่างกัลยาณปุถุชนผู้ที่เริ่มศึกษา ที่เริ่มรู้ตัวว่ากำลังหลับ กับพระอริยบุคคล ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว จิรกาลภาวนาจริงๆ
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างสูง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาคุณ kanchana.c ด้วยค่ะ
ขอกราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของอาจารย์กาญจนา ด้วยครับ
ผู้รู้ก็ รู้แล้วเข้าใจแล้ว ผู้ตื่นก็รู้แล้วเข้าใจแล้ว แล้วผู้เบิกบานละเป็นยังไงครับ
ขออนุโมทนา ครับ
กำลังอบรมเจริญปัญญาเพื่อเปลี่ยนจากผู้หลับเป็นผู้ตื่นอยู่ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและกราบขอบพระคุณพร้อมทั้งกราบอนุโมทนา
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และผู้ร่วมเจริญกุศลทุกๆ ท่าน
ขอกราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ ค่ะ เพิ่งจะเข้าใจความหมายของคำว่า "พุทโธ" "ผู้ตื่น" ในขณะนี้เองว่าไม่ได้อยู่ไกลเลย แต่อยู่ใกล้จนเราไม่เคยรู้
ขออนุโมทนาคุณกาญจนา ที่ได้นำธรรมจากท่านอาจารย์มาให้ทราบค่ะ
คำว่า "พุทโธ" แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ขณะที่สติเกิดระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ แล้วก็ดับไป อกุศลก็เกิดต่อทันที จะเห็นได้ว่าการศึกษาพระธรรม เข้าใจพระธรรม และ อบรมเจริญปัญญา จนเป็นเหตุปัจจัยให้สติเกิดระลึกรู้ลักษณะสภาพธรรมตามความเป็นจริงนั้น ต้องใช้เวลาอบรมนานแสนนานมาก แต่ขณะที่ตื่นสั้นนิดเดียวแล้วก็หลับต่อ แล้วกิเลสที่สะสมมามากมายในอดีต เมื่อไหร่จะดับได้หมด เพราะหลับอยู่เกือบตลอดเวลา จึงเป็นผู้ไม่ประมาทที่จะฟังพระธรรมอบรมเจริญปัญญา จิรกาลภาวนา ค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขออนุโมทนาพี่กาญจนา ที่นำเสนอบทสนทนาพระธรรมที่มีประโยชน์เกื้อกูลแก่พวกเราเป็นอย่างมากค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ และทุกๆ ท่านค่ะ
ตื่น...เวลาที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ตามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล
เมื่อรู้ เมื่อตื่น ย่อมเบิกบาน เหมือนคนทำงานที่รักที่ดีที่สวยที่สุด เสร็จแล้ว ไม่มีที่ให้ทำต่อถูกตรงไม่เป็นอื่น เขาย่อมมองกลับมาดูอย่างเบิกบาน
กราบนมัสการพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโทนาอ.กาญจนาที่นำคำว่า พุทธโธ มามาอธิบายให้ฟังตามที่ท่านอาจารย์สุจินต์ ได้กล่าวให้ฟัง ดิฉันก็คิดเหมือนอ.กาญจนาที่เวลามีภัยจะท่อง พุทธโธ เพราะคิดว่าเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้าเพื่อคุ้มครอง เมื่อได้รู้ความจริงว่า ผู้ตื่นนั้นคือ ผู้ที่ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางใดทางหนึ่งใน 6 ทางในขณะนี้นั่นเอง
ตอนแรกก็คิดว่าผู้รู้คือ รู้เรื่องธรรม ผู้ตื่นก็คือผู้ที่สนใจศึกษาธรรม ดิฉันช่างโง่เขลาเสียจริง
กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ และอ.กาญจนาค่ะ