พระพุทธเจ้าทรงมีบัญญัติเป็นอารมณ์หรือไม่
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีบัญญัติเป็นอารมณ์หรือเปล่า?
ชีวิตประจำวันของทุกสัตว์ บุคคลนั้น เมื่อจักขุทวารวิถีจิตดับหมดแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่น แล้วมโนทวารวิถีจิตก็มีปรมัตถอารมณ์เดียวกับทางจักขุ-ทวารวิถีจิตที่เพิ่งดับไปวาระ ๑ และเมื่อภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว มโนทวารวิถีจิตที่เกิดต่อก็นึกถึงรูปร่างสันฐานของสิ่งที่ปรากฏ เพราะสิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นรูปประเภทหนึ่งซึ่งเกิดกับธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม เอาสีออกจากธาตุดิน น้ำ ไฟ ลม ได้ไหม...ไม่ได้เลย เพราะที่ใดก็ตามที่มีมหาภูตรูป ๔ ที่นั่นต้องมีรูปสี (วัณณะ) กลิ่น รส โอชา รวมอยู่ด้วย แยกกันไม่ได้เลย
เมื่อเอาสีออกไปจากมหาภูตรูปไม่ได้ สีจึงปรากฏให้เห็นทางตา และสัญญาจำหมายเป็นรูปร่างสัณฐานให้รู้บัญญัติว่าสิ่งที่ปรากฏให้เห็นนั้นเป็นอะไร ถ้าไม่มีสีเลย เอาสีออกจากมหาภูตรูปหมด จะเห็นเป็นคน สัตว์ วัตถุ สิ่งของต่างๆ ได้ไหม แม้จิตก็เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทางตาไม่ได้เลย เพราะไม่มีสิ่งที่กระทบจักขุปสาท
ฉะนั้น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีบัญญัติเป็นอารมณ์หรือเปล่า...ต้องมี การฟังพระธรรมนั้นต้องพิจารณาเหตุผลของสภาพธรรมประกอบกันด้วย อารมณ์มี 2 อย่าง คือ ปรมัตถธรรมและบัญญัติ ขณะใดที่ไม่มีปรมัตถ-ธรรมเป็นอารมณ์ ขณะนั้นต้องมีบัญญัติเป็นอารมณ์ ที่กล่าวย้ำบ่อยๆ ก็เพื่อเกื้อกูลให้สติระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏให้ถูกต้องว่า ในขณะที่มีสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาเป็นสีสันวัณณะต่างๆ นั้น
เมื่อสีแยกจากมหาภูตรูปไม่ได้ สีที่เกิดกับมหาภูตรูปจึงปรากฏให้เห็นเป็นบัญญัติต่างๆ ขึ้น เมื่อสติปัฏฐานเกิดก็แยกระลึก พิจารณา สังเกตรู้ได้ถูกต้องว่า...สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นสีสันต่างๆ นั้น เป็นสภาพธรรมชนิดหนึ่งที่ปรากฏทางตา และขณะที่รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตานั้นเป็นอะไรก็เป็นวิถีจิตที่รู้ทางมโนทวาร
ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป