เรื่องที่ไม่ดีเกิดจากจิตที่ไม่ดี

 
kanchana.c
วันที่  4 พ.ย. 2551
หมายเลข  10294
อ่าน  1,985

ระยะนี้รู้สึกมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย ทำให้ไม่สบายใจ เป็นกังวล บังเอิญได้ถอดเทปคำบรรยายแนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ ๑๒๔๙ ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเองพอดี เมื่ออ่านแล้วเบาสบายขึ้นมาก รู้ว่าเป็นกิเลสของตัวเองทั้งนั้น จึงอยากจะเผยแพร่ให้สหายธรรมท่านอื่นที่อาจจะอยู่ในสถานการณ์เดียวกันได้มีส่วนแห่งความรู้นี้ด้วย

เรื่องราวต่างๆ ก็เป็นแต่เพียงชั่วขณะที่จิตคิดถึงเรื่อง ถ้าจิตไม่คิดถึงเรื่องนั้น เรื่องนั้นก็ไม่มี มีเพราะจิตคิด เกิดขึ้นคิด และเรื่องนั้นจะดี หรือเรื่องนั้นจะไม่ดี อยู่ที่สภาพของจิต ใช่ไหมคะ พอเป็นเรื่องที่ไม่ดี ย้อนกลับมาระลึกว่า จิตที่คิดเรื่องนั้นเป็นจิตที่ไม่ดี แค่นี้เราก็ละแล้ว ใช่ไหม เพราะว่าเป็นโทษเป็นภัย เพราะว่าเป็นการสะสมสภาพของจิตที่ไม่ดี คือถ้าเราสามารถที่จะมีสติแต่ละขั้นได้ ก็เป็นกุศล อย่างที่ว่าเรื่องไม่ดี นึกถึงจิตทีเดียว ที่ว่าเรื่องไม่ดีนั้นปรากฏ เพราะจิตที่ไม่ดีกำลังนึกถึงเรื่องที่ไม่ดี แค่นี้ยังไม่ถึงสติปัฏฐานก็เป็นประโยชน์แล้ว ใช่ไหมคะ ... .

เพราะฉะนั้น ถึงแม้สิ่งที่ไม่ดีจะปรากฏ ทางตาให้เห็น ทางหูให้ได้ยิน ไม่คิดถึงสิ่งที่ไม่ดีได้ เพราะดับแล้วค่ะ ไม่ฟังเสียงที่ไม่ดีได้ ก็เพราะดับแล้วเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จิตที่เกิดต่อ กุศลหรืออกุศล ถ้าต่อเรื่องที่ไม่ดี ก็แปลว่า อกุศลจิตกำลังพัลวันพัลเกอยู่กับสิ่งที่เห็นไม่ดี ได้ยินไม่ดี ใช่ไหมคะ แต่ถ้าจิตที่ดี ก็ตัดไปเลย หมดไปเลย ไม่มีอะไร ดับไปหมดแล้ว

เพราะฉะนั้น เราสามารถที่จะรู้จิตของเราได้จากเรื่องที่เราคิด ถ้าเราคิดในเรื่องของบุญกุศล ใช่ไหมคะ ขณะนั้นเป็นกุศลจึงมีเรื่องของบุญกุศล แต่ขณะไหนที่ไม่ใช่เรื่องของบุญกุศล ขณะนั้นก็ทราบได้ถึงสภาพของจิตว่ า จิตขณะนั้นไม่ใช่บุญ ไม่ใช่กุศล แล้วเราก็เก็บไว้เต็มเลย จิตประเภทที่ไม่ดี ใครก็เอาออกไปไม่ได้

บทสนทนาธรรมที่อินเดีย ๒๕๒๖ จากเทปคำบรรยายครั้งที่ ๑๒๔๙


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
Noparat
วันที่ 5 พ.ย. 2551

จิต...สามารถนึกคิดปรุงแต่งได้มากมาย แต่เมื่อได้อบรมเจริญปัญญาแล้ว จะรู้ว่า...ทุกอย่างเป็นธรรม

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 5 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sam
วันที่ 5 พ.ย. 2551

"เรื่องที่ไม่ดีเกิดจากจิตที่ไม่ดี"

ท่านอาจารย์สุจินต์ฯ อธิบายไว้ชัดเจนดีแล้ว

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pannipa.v
วันที่ 5 พ.ย. 2551

อนุโมทนาค่ะ

เห็นประโยชน์ของคำว่า

โยนิโสมนสิการ พิจารณาในใจโดยแยบคาย

อโยนิโสมนสิการ พิจารณาในใจโดย ไม่แยบคาย

เรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้น ถ้าจิตพิจารณาดี แยบคาย อกุศลจิตก็ไม่เกิด รู้ทั้งรู้ว่า ใครก็ทำให้เราหม่นหมองไม่ได้ นอกจาก อกุศจิตของเราเอง แต่จะไม่ให้ จิตเป็นอกุศล ในขณะเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส หรือ กระทบสัมผัส ในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ

ยอมรับว่ายากมาก

เพราะยังเป็น "เรา" อยู่ทุกขณะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 5 พ.ย. 2551

" เรื่องราวทุกอย่างที่คิดว่าสำคัญ หมดไปพร้อมกับจิตคิดที่ดับลง "เรื่องไม่ดีเพราะจิตเป็นอกุศล จึงคิดร้าย คิดในทางก่อโทษ จบลงเมื่อจิตดับ เรื่องดีเพราะจิตเป็นกุศล จึงคิดดี คิดในทางก่อสุข ก็จบลงเมื่อจิตดับสติปัฏฐานไม่ระลึกไปในเรื่องราว เพราะเรื่องราวไม่มีสภาพปรากฏสภาพที่ปรากฏ ก็คือ นามธรรมที่กำลังคิดถึงเรื่องราวนั้นเท่านั้นเอง

...ขออนุโมทนาครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pornpaon
วันที่ 5 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 5 พ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมดาของผู้ที่ยังมีกิเลส อกุศลจิตย่อมจะเกิดขึ้นมากในชีวิตประจำวัน คงไม่ต้องกล่าวถึงอดีตชาติที่ผ่านๆ มาว่าจะมากสักแค่ไหน แม้แต่วันนี้วันเดียว อกุศลจิตก็เกิดมากเหลือเกินไม่ว่าจะเป็นอกุศลจิตประเภท ที่มีโลภะ ความติดข้องต้องการเกิดร่วมด้วยหรือ ประเภทที่มีความขุ่นใจ หงุดหงิด ไม่พอใจ เกิดร่วมด้วย เป็นต้น ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป สำหรับ คิดนั้น ในฐานะที่ยังเป็นผู้มีกิเลส ขณะที่คิดย่อมเป็นกุศลหรือเป็นอกุศลขึ้นอยู่กับการสั่งสมมาของแต่ละบุคคลจริงๆ ว่าจะเป็นจิตประเภทไหน เพราะเหตุว่าจิต ไม่ได้เกิดขึ้นมาเพียงจิตเท่านั้น ยังมีเจตสิกที่ปรุงแต่งจิตเกิดร่วมด้วย ปรุงแต่งให้เป็นจิตที่ดีก็มี ปรุงแต่งให้เป็นจิตที่ไม่ดีก็มี ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้ฟัง ได้ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน เมื่อความรู้ความเข้าใจค่อยๆ เจริญขึ้นไปตามลำดับ ย่อมเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้กุศลธรรมประการต่างๆ เจริญขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน (คิด ก็คิดดี) ครับ

ขออนุโมทนาในกุสลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
เมตตา
วันที่ 6 พ.ย. 2551

จิตประเภทที่ไม่ดี ใครก็เอาออกไปไม่ได้ เพราะไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครได้ เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย จึงควรศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สภาพธรรมเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นจิตประเภทที่ดีหรือ จิตประเภทที่ไม่ดี ก็จะปรากฎต่อปัญญา จากการที่เริ่มเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยจนกว่าสามารถจะประจักษ์ความจริง ของสภาพธรรมนั้นได้ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมไม่ใช่เรา ตัวตนหรือสัตว์บุคคลใดๆ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 6 พ.ย. 2551

ประโยชน์จากขั้นการฟังพระธรรมเข้าใจก็ทำให้สติเกิดระลึกได้ว่าคิดไม่ดีเพราะอกุศลจิตเกิด มีอะไรมากมายที่คิดว่าดีหรือไม่ดีเพราะคิดจริงๆ พิสูจน์ชัดมากเมื่อนอนหลับ สนิทไม่ฝัน ไม่รู้ว่าเป็นใคร อยู่ที่ไหน ไม่มีเรื่องดีหรือไม่ดี เพราะไม่ได้คิดและรับรู้ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 6 พ.ย. 2551

เรื่องไม่ดีเกิดจากจิตที่ไม่ดี ถึงรู้ว่าเป็นเช่นนั้นจริงแต่ไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้ นอกจากขัดเกลาจิตใจที่ละเล็กทีละน้อย ด้วยปัญญาขั้นต้นที่เริ่มจากการฟังเพื่อให้เข้าใจ จนเป็นสัญญาที่มั่นคง ว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ จนคลายสักกายะทิฏฐิได้ เมือนั้นถึงเป็นจิตที่ไม่ดี ก็ไม่ทำให้ล่วงสู่กรรมบถ ที่จะทำให้ปฏิสนธิใปสู่อบายภูมิ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
wannee.s
วันที่ 6 พ.ย. 2551

สัตว์ทั้งหลายจะบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพราะรูปงาม หรือผิวงามแต่บริสุทธิ์เพราะจิตเป็นกุศลผ่องใสค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Komsan
วันที่ 7 พ.ย. 2551
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
paderm
วันที่ 8 พ.ย. 2551
มีสภาพธรรมที่ดีและไม่ดี จึงมีเรื่องราวที่ดีและไม่ดี
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ