จดหมายจากท่านผู้ฟัง [11]

 
สารธรรม
วันที่  5 พ.ย. 2551
หมายเลข  10305
อ่าน  1,515

จดหมายจากท่านผู้ฟัง 11

ท่านอาจารย์ วันนี้ขอตอบจดหมายของท่านผู้ฟังท่านหนึ่ง ขอเชิญท่านผู้ฟัง ช่วยอ่านด้วยค่ะ อ่านง่าย แต่ไม่ต้องอ่านชื่อก็ได้นะคะ

บ้านพักวิทยาลัยเทคนิค บุรีรัมย์

๒๖ กันยายน ๒๕๒๓

เรียน คุณกุลิน คงสวัสดิ์ที่นับถือ

ดิฉันได้รับม้วนเทปที่คุณส่งไปให้หลายวันแล้ว ทีแรกตั้งใจว่า พอฟังจบก็จะส่งกลับคืนมาพร้อมจดหมายตอบรับ แต่พอดีดิฉันเดินทางกลับที่ฉะเชิงเทราได้เอาม้วนเทปติดไปด้วย ตั้งใจจะนำไปให้คุณแม่ฟัง และนี่ดิฉันกลับมาถึงบ้านพักแล้ว แต่ตัวดิฉันเองก็เปิดฟังหลายเที่ยว ยิ่งฟังก็ยิ่งเกิดประโยชน์มากไม่รู้สึกเบื่อเลย ดิฉันฟังไปพร้อมด้วยบันทึกใส่เทปดิฉันไว้ด้วย แต่ไม่ทราบว่าเป็นที่เครื่องเทป หรือเป็นที่ตลับเทป พออัดแล้วเปิดฟังดู เสียงมันค่อยมากค่ะเป็นทุกบ้านเลย แต่เปิดฟังที่อัดไว้เดิมจากวิทยุ ก็ยังฟังได้ยินนะคะ ดิฉันจึงสุดวิสัยที่จะบันทึกไว้ได้

คุณแม่ของดิฉันท่านก็ชอบศึกษาและปฏิบัติธรรม แต่วิธีของท่านมักจะขัดกับดิฉันเสมอ เพราะท่านชอบท่องบ่นสวดมนต์ นั่งหลับตาภาวนา แล้วก็เดินจงกรม ดิฉันจึงแนะนำท่านให้ลองศึกษาวิธีของอาจารย์สุจินต์ดู โดยบอกท่านว่า เท่าที่ดิฉันได้ศึกษาธรรมมา ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่จากพระภิกษุ หรือฆราวาสก็ตาม ก็เห็นมีของอาจารย์สุจินต์นี่แหละ ที่เผยแพร่ธรรมโดยครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่มีการขัดแย้งกันเลย ส่วนท่านอื่นๆ นั้น ดิฉันเห็นว่ามักจะเน้นหนักไปในเรื่อง อนิจจํ ทุกฺขํ แต่ลืมเรื่องอนตฺตา เพราะโดยมากมักจะแนะนำวิธีปฏิบัติ แล้วก็บอกว่า ต้องทำจิตให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วผลก็จะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยลืมไปว่า ผู้ที่จะไปปฏิบัติแต่ละคนนั้น ในอดีตสร้างบารมีมาต่างกัน กุศลกรรมและอกุศลกรรมก็ทำมาต่างกัน เพราะฉะนั้น จะหวังผล อย่างเดียวกันในเวลาเดียวกันได้อย่างไร

ซึ่งต่างกับที่ได้ฟังจากอาจารย์สุจินต์บรรยาย จะสอดคล้องกันและมีเหตุผล ดิฉันบอกกับคุณแม่ว่า การศึกษาธรรมมากๆ เป็นการดี แต่ต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนจึงค่อยรับ เพราะส่วนใหญ่ท่านฟังจากพระแล้ว ก็นำมาปฏิบัติดิฉันบอกว่า พระภิกษุส่วนใหญ่ท่านก็พูดตามแบบของท่าน คือแบบของพระ แต่เราเป็นฆราวาสคนละเพศกัน เพราะฉะนั้น จะไปปฏิบัติเหมือนกันไม่ได้ธรรมสำหรับฆราวาสก็มี เช่น การไหว้ทิศทั้ง ๖ ที่อาจารย์สุจินต์บรรยายในเทปดังนั้น ขณะนี้ม้วนเทปจึงยังคงอยู่ที่คุณแม่ของดิฉัน เมื่อท่านส่งมาให้ดิฉันแล้วดิฉันจะส่งกลับมาให้คุณกุลินค่ะ

ต้องขออภัยด้วยที่ตอบล่าช้า บางครั้งดิฉันได้พูดถึงคุณประโยชน์จากการได้รับฟังธรรมจากอาจารย์สุจินต์ บอกว่าท่านพูดดี แล้วเวลามีปัญหาสงสัย ท่านก็ตอบดี ยกสูตรนั้น สูตรนี้ขึ้นมาประกอบให้เข้าใจยิ่งขึ้น ดิฉันมีเจตนาจะให้คนฟังเขาเกิดความศรัทธา เพื่อประโยชน์สำหรับตัวเขาเองแต่บางทีผล กลับไม่เป็นอย่างนั้นหรอกค่ะ เพราะเขาตอบดิฉันว่า ที่ตอบได้ตรงและเปิดพระสูตรมาตอบได้ถูกต้อง เพราะมีการซ้อมกันไว้แล้ว และที่อาจารย์สุจินต์เผยแพร่ธรรมอยู่นี้ เพราะเป็นอาชีพ ดิฉันก็ไม่ทราบว่าจะตอบเขาอย่างไร ได้แต่บอกว่าดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะดิฉันก็ไม่เคยทราบประวัติหรือ รายละเอียดในตัวท่าน ดิฉันสนใจแต่ธรรมที่ท่านบรรยาย และนิยมในความสามารถพร้อมกับคุณธรรมที่ท่านมี เพราะดิฉันไม่ทราบว่าจะพูดอะไรได้ดีกว่านี้ พร้อมกันนี้ดิฉันมีจิตศรัทธาที่จะเผยแพร่ธรรม โดยส่งเงินจำนวน ๑๐๐ บาท บริจาคในนามของดิฉันและสามี และขออุทิศส่วนกุศลนี้ไปให้ญาติมิตรทุกคน

ด้วยความนับถือ (สหายธรรมะท่านหนึ่ง)

ท่านอาจารย์ : ขอบพระคุณค่ะ ที่จะขอเรียนชี้แจงท่านเจ้าของจดหมาย ก็เพราะท่านมีความหวังดีที่ใคร่จะให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์จากการฟังธรรม แต่ว่าท่านที่ไม่สนใจ แล้วก็ไม่คิดว่าการฟังรายการนี้จะมีประโยชน์ เพราะท่านเข้าใจว่า การที่จะตอบได้ตรง และเปิดพระสูตรมาตอบได้ถูกต้อง เพราะมีการซ้อมกันไว้แล้ว และที่อาจารย์สุจินต์เผยแพร่ธรรมอยู่นี้ก็เพราะเป็นอาชีพ เข้าใจว่า ถ้าได้เรียนชี้แจงแล้ว ก็คงจะได้รับทราบความจริงแล้วจะได้พิจารณาธรรมที่ได้ฟังเพื่อที่จะได้รับประโยชน์จากการพิจารณาบ้าง

สำหรับการบรรยายธรรมนี้ ก็ได้บรรยายไปตามลำดับ พร้อมทั้งหลักฐานในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ซึ่งได้รวบรวมมาพร้อมที่จะบรรยายเพราะฉะนั้น ก็ไม่เป็นการยาก ที่จะตอบคำถามของท่านผู้ฟัง ซึ่งเป็นคำถามในเรื่องที่กำลังบรรยายอยู่ และสำหรับข้อความที่ว่าซ้อมกันมาแล้วนี้ ก็ขอเรียนให้ทราบว่า มีท่านผู้ฟังบางท่านที่ได้ซักถามบ่อยๆ ซึ่งเป็นคำถามที่มีประโยชน์แล้วก็เกื้อกูลสำหรับท่านผู้ฟังอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มาฟังด้วยตนเอง หรือว่าท่านผู้ฟังที่เริ่มฟัง ซึ่งก็เป็นกุศลจิตของท่านผู้นั้นเองที่คิดเกื้อกูลท่านผู้ฟังอื่นๆ ด้วยการถามแทน ซึ่งก็เป็นการกระทำด้วยกุศลจิตของท่านผู้นั้นเอง ท่านไม่ได้มาปรึกษาหรือซักซ้อมอะไรกับดิฉันก่อนเลย และบางครั้งดิฉันก็รู้สึกอยากให้ท่านผู้ฟังถามข้อความละเอียดบางตอน แต่ท่านผู้ฟังไม่ได้ถาม ก็รู้สึกเสียดาย บางครั้งก็น่าจะถาม แต่เมื่อไม่มีท่านผู้ฟังที่สนใจ ความละเอียดตอนนั้นผ่านไป ก็รู้สึกเสียดายแล้วบางครั้งก็รู้สึกว่ามีข้อความบางตอนในพระธรรมที่ถ้าผู้หนึ่งผู้ใดจะช่วยกรุณาถาม ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้ฟังท่านอื่นด้วย ก็ได้เรียนให้ท่านผู้ฟังบางท่านทราบว่า ท่านมีความเห็นอย่างนี้หรือไม่ว่า ข้อความตอนนี้ควรที่จะได้ซักถาม เพื่อที่จะได้ประโยชน์สำหรับท่านผู้ฟังทางบ้าน และท่านผู้ฟังท่านอื่น ถ้าท่านผู้ฟังท่านนั้นเห็นด้วยว่า เป็นอย่างนั้น ท่านก็กรุณาถาม อย่างนี้ไม่ทราบว่าจะเรียกว่าซักซ้อมหรือเปล่าคะ แต่ที่ได้เคยแนะนำท่านผู้ฟังให้เห็นประโยชน์ของการซักถามข้อธรรมบางประการนั้น ก็เฉพาะในตอนแรกๆ ที่เริ่มบรรยายเพียงไม่กี่ข้อเท่านั้น เพราะว่าในตอนต้นเป็นระยะที่ท่านผู้ฟังเพิ่งเริ่มจะรับฟังเรื่องการอบรมเจริญสติปัฏฐาน เพราะฉะนั้น ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ยังใหม่สำหรับท่านผู้ฟังส่วนมากในตอนนั้น และคำถามทั้งหมดหลังจากตอนเริ่มบรรยายในครั้งแรกๆ นั้น ก็เป็นคำถามที่เป็นข้อสงสัยของท่านผู้ฟังเองทั้งหมดค่ะ ซึ่งท่านผู้ถามทุกท่านก็คงจะทราบดีว่า คำถามที่ท่านมาถามนั้น ท่านไม่ได้มาซักซ้อมกับดิฉันก่อนเลย

และคงจะไม่ลืมที่เคยกล่าวถึงข้อความที่ว่า ผู้บรรยายธรรมทุกท่านเปรียบเสมือน" ผู้อ่านสาส์นของพระราชา" พระราชา คือ พระบรมศาสดาเพราะฉะนั้น สาส์น คือพระไตรปิฏกและข้อความในอรรถกถา เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังก็ไม่ควรคิดถึงว่าผู้อ่านเป็นใคร แต่ประโยชน์ที่จะได้รับจากการฟังธรรม ก็คือสนใจในข้อความ ในสาส์น คือพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง และพร้อมกันนั้นก็อาจจะพิจารณาผู้อ่านได้ว่า ผู้อ่าน อ่านผิดหรืออ่านถูกประการใดจากการพิจารณาของท่าน ไม่ใช่ว่าฟังแล้วก็ต้องเชื่อ แต่ว่าในขณะที่ฟังนั้นเองก็ยังพิจารณาผู้อ่านได้ว่า ผู้อ่าน อ่านผิดหรืออ่านถูก เข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกคลาดเคลื่อนประการใด แล้วถ้ามีข้อความตอนใดที่สงสัยก็ซักถาม เพื่อประ-โยชน์ทั้งผู้บรรยายและผู้ฟังด้วย และถ้าผู้ที่อ่านสาส์นนั้นเป็นผู้ที่ศึกษาพระธรรมแล้วได้เลือกเฟ้นธรรมต่างๆ เพื่อที่จะได้นำสาส์นมาอ่านให้ฟัง เพื่อท่านผู้ฟังจะได้พิจารณา ไม่ทราบว่าควรจะตำหนิผู้อ่านสาส์น ผู้มีความสนใจศึกษาธรรมและเลือกเฟ้นธรรมที่จะนำมาอ่านหรือไม่

และประการสุดท้ายที่จะขอเรียนให้ทราบ ก็คือว่า การบรรยายธรรมไม่ใช่อาชีพของดิฉัน เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังท่านใดที่ไม่อยากจะฟัง เพราะว่าคิดว่าเป็นอาชีพ ก็จะได้ทราบว่า การบรรยายธรรมไม่ใช่อาชีพของดิฉัน

ข้อความบางตอนจาก ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๑๐๐๓ บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 5 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pornpaon
วันที่ 5 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 6 พ.ย. 2551

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ในความอดทนและความมีเมตตาอย่างสูง ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ตลอดเวลากว่า ๕๐ ปี

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนาคุณกุลิน

ขอขอบคุณ และ ขออนุโมทนาคุณสารธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ปริศนา
วันที่ 6 พ.ย. 2551

"แต่ลืมเรื่องอนตฺตา"ข้อความนี้สะดุดใจมากทุกครั้งที่ได้ยินและจำได้ว่าได้ฟังเรื่องจดหมายฉบับนี้จากทางวิทยุ เมื่อไม่กี่วันมานี้จำไม่ได้ว่า เอเอ็ม ๙๔๕ หรือ เอเอ็ม ๖๗๕แต่ยินดีมากที่ได้กลับมาอ่านทบทวนอีกครั้ง

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนา คุณสารธรรม ด้วยค่ะ.

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
orawan.c
วันที่ 6 พ.ย. 2551

อ่านแล้วยิ่งรู้สึกตอกย้ำในความมั่นคงเป็นอย่างยิ่งของท่านอาจารย์สุจินต์ ที่ยืนหยัด นำพระธรรมคำสอน ที่ส่องถึงลักษณะสภาพธรรม มาเผยแพร่แก่ผู้สนใจศึกษาด้วย เมตตา วิริยะ อุตสาหะ อดทนและบารมีธรรมอื่นๆ

ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพ และซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ในพระคุณอันใหญ่หลวงของท่าน และขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของผู้นำจดหมายมาให้อ่านพร้อมสหายธรรม ทุกๆ ท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Noparat
วันที่ 6 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 6 พ.ย. 2551

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ตั้งแต่ที่เริ่มฟังรายการธรรมะจากคลื่นสถานีวิทยุต่างๆ จนกระทั่งในที่สุดเหลือเพียงรายการของท่านอาจารย์สุจินต์นั้น เรื่องที่ประทับใจมากที่สุดเรื่องหนึ่งในหลายๆ เรื่อง คือ ความเป็นผู้ตรงและจริงใจของท่าน

ไม่เคยเห็นสักรายการเลย ที่จะมีการนำจดหมายที่ต่อว่าตนเอง (ซึ่งมีบ่อยมาก) มาอ่านออกอากาศ และตอบ พร้อมทั้งชี้แจงด้วยเมตตาอย่างท่านอาจารย์สุจินต์ ไม่ว่าใครต่อใครจะต่อว่าท่านมาในจดหมายด้วยคำพูดรุนแรงขนาดไหน ท่านก็ไม่เคยว่าตอบเลย มีแต่การชี้แจงเพื่อความเข้าใจจริงๆ

ขออนุโมทนาคุณสารธรรม

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
wannee.s
วันที่ 6 พ.ย. 2551

ผู้ที่เข้าใจธรรมะและผู้ทีแสดงธรรมของพระพุทธเจ้าหาได้ยากค่ะ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นบุคคลหนึ่งค่ะ ท่านแสดงธรรมตามลำดับ ประกอบด้วยเมตตา ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่เห็นแก่ลาภ สักการะ แสดงธรรมเพื่ออนุเคราะห์ และไม่กระทบผู้อื่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่ 6 พ.ย. 2551

จากความเห็นที่ ๘ "

ผู้ที่เข้าใจธรรมะและผู้ที่แสดงธรรมของพระพุทธเจ้าหาได้ยากค่ะ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นบุคคลหนึ่งค่ะ ท่านแสดงธรรมตามลำดับประกอบด้วยเมตตา ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่เห็นแก่ลาภ สักการะ แสดงธรรมเพื่ออนุเคราะห์ และไม่กระทบผู้อื่นค่ะ..."

ขออนุโมทนาทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ไม่มีเรา
วันที่ 30 ธ.ค. 2551
โมทนาค่ะ
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ