จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๙๗๒
บรรยายโดย ...ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
... จะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ ...
ผู้ฟัง ผมเคยคิดว่า " ความจริงแล้ว การทำบาป ผลจะต้องมี "ทั้งนี้ เพราะเรามีพื้นในเรื่องการศึกษาธรรมบ้าง แต่ถ้าเราพิจารณาถึงบุคคลทั่วๆ ไป ที่เขาศึกษาบ้างไม่ได้ศึกษาบ้าง หรือศึกษานิดๆ หน่อยๆ เขาจะต้องปฏิเสธว่า ผลกรรมนี้ไม่มี เขาอาจจะเจาะเข้าถึงปัญหาของท่านพระองคุลีมาลเถระว่า ทำบาปตั้งมากมาย แต่ผลที่สุดแล้วบาปนั้นไม่ได้ให้ผลเลย เพราะฉะนั้น ก็แสดงว่าคำสอนหรือข้อปลีกย่อยอะไรต่างๆ เป็นเพียงส่วนประกอบซึ่งความจริงนั้น วิบากไม่มี เขาอาจจะเข้าใจเหมาๆ หรือสรุปรวมๆ อย่างนี้ได้ ที่ผมพูดนี้ ผมหมายถึงว่า เราไม่อยากจะเอาตัวรอดคนเดียว คือคิดถึงคนทั้งหลายอื่นๆ ที่ทำให้บ้านเมืองเรายุ่งๆ อยู่อย่างเดี๋ยวนี้ ก็เพราะเขามีความคิดตามแนวทำนองอย่างนี้ แล้วเราจะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ซึ่งทำให้บ้านเมืองเรายุ่งไม่สิ้นสุดเสียที อย่างน้อยก็ให้ค่อยยังชั่วลงบ้าง
ท่านอ.สุ ยากนะคะ เพราะว่าเพียงแต่อยากจะให้ผู้ใดสนใจ แม้แต่จะรับฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ แล้วทรงแสดงไว้ก็ยากเสียแล้ว เพราะว่าบางท่านอาจจะเห็นว่า ไม่เป็นประโยชน์ บางท่านอาจจะเห็นว่าคร่ำครึ ไม่ทันสมัย เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ไม่รู้เลยว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องของธรรม ซึ่งเกิดปรากฏทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนั้น ท่านผู้ฟังที่หวังดีต่อคนอื่น ก็ศึกษาให้มากๆ จนกระทั่งเข้าใจละเอียด สามารถที่จะเป็นปัจจัยให้ประพฤติปฏิบัติตามได้จริงๆ เพิ่มขึ้น และเป็นตัวอย่างของบุคคลอื่น แล้วถ้าสามารถจะเกื้อกูลบุคคลอื่นในด้านใดรวมทั้งการแสดงธรรมด้วยตามกาละเทศะที่สมควรก็จะเป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้น สำหรับตัวท่านผู้ฟังนี้ เชื่อแน่ในเรื่องของกิเลส กรรม
เรื่องของการที่จะให้ทุกคนมีความประพฤติเป็นไปด้วยความเห็นอย่างเดียวกันนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ในสมัยพุทธกาล ท่านพระสารีบุตรท่านก็ให้ศีลแก่คนที่ท่านประสบพบเห็นโดยคนที่รับนั้นไม่ได้เอ่ยปากขอบางคนที่รับศีลไปก็เป็นผู้ที่ทุศีล คือประกอบอาชีพที่ล่วงทุจริตกรรมมีการล่าสัตว์ การหาปลา เป็นต้น คนเหล่านั้นพากันรับศีล ด้วยความเคารพในตัวท่านพระเถระจึงไม่อาจขัดขืนคำของท่านได้ แต่เมื่อรับมาแล้วก็กลับไม่ได้รักษาพากันกลับไปทำอาชีพของตนเหมือนเดิม
เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนี้แด่พระผู้มีพระภาคพระองค์จึงทรงนำเรื่องในอดีตมาแสดงว่าในกาลก่อนท่านพระสารีบุตรก็เคยกระทำเช่นนี้มาแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็โดยทำนองเดียวกันเพียงแต่ท่านพระสารีบุตรได้เป็นอาจารย์ ฝ่ายพระโพธิสัตว์ได้เป็นศิษย์ของอาจารย์ ชื่อว่า การัณทิยะ การัณทิยะ หมายที่จะให้อาจารย์ของตนได้เข้าใจถึงความถูกต้องเหมาะสมของการให้ศีลว่าควรให้ศีลแก่ผู้ที่เอ่ยขอเท่านั้น จึงได้ทำอุบายกลิ้งหินลงไปซอกเขา พออาจารย์มาเห็นการกระทำของเขา จึงกล่าวว่า
ท่านผู้เดียวรีบร้อน ยกก้อนหินใหญ่กลิ้งลงไปในซอกเขาในป่า ดูก่อนการันทิยะ จะประโยชน์อะไรแก่ท่าน ด้วยการทิ้งก้อนหินลงในซอกเขาเล่านี้หนอ.
การัณทิยะ กล่าวว่า ข้าพเจ้าเกลี่ยหินก้อนเล็ก ก้อนใหญ่ลง จักกระทำแผ่นดินใหญ่นี้ ซึ่งมีมหาสมุทรสี่เป็นขอบเขต ให้ราบเรียบเพียงดังฝ่ามือ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ทิ้งหินลงในซอกเขา
อาจารย์ กล่าวว่า ดูก่อนการันทิยะ เราสำคัญว่า มนุษย์คนเดียว ย่อมไม่สามารถจะทำแผ่นดินให้ราบเรียบดังฝ่ามือได้ ท่านพยายามจะทำซอกเขานี้ให้เต็มขึ้น ท่านก็จักละชีวโลกนี้ไปเสียเปล่าเป็นแน่.
การัณทิยะ กล่าวว่า ข้าแต่ท่านพราหมณ์ หากว่ามนุษย์คนเดียว ไม่สามารถจะทำแผ่นดินใหญ่นี้ให้ราบเรียบได้ ฉันใดท่านก็จักนำมนุษย์เหล่านี้ผู้มีทิฏฐิต่างๆ กันมาไม่ได้ ฉันนั้น เหมือนกัน.
อาจารย์ กล่าวว่า ดูก่อนการันทิยะ ท่านได้บอกความจริงโดยย่อแก่เรา ข้อนี้เป็นอย่างนั้นจริง แผ่นดินนั้น มนุษย์ไม่สามารถจะทำให้ราบเรียบได้ ฉันใด เราก็ไม่อาจทำมนุษย์ทั้งหลายให้มาอยู่ในอำนาจของเราได้ ฉันนั้น.
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
การทำที่เหลือวิสัย [การันทิยชาดก]
ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาคุณสารธรรมค่ะ พระสูตรที่นำมาประกอบไพเราะลึกซึ้งมากค่ะ
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ความคิดความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคลนั้น เป็นเรื่องของการสะสมมาจริงๆ ไม่ง่ายที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องอื่นไกล แม้แต่ตัวเราเอง...ที่จะคิดถูก เชื่อถูก ศรัทธาถูก เข้าใจถูก...ใช้เวลา...นาน...
ขออนุโมทนาคุณสารธรรม
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
คนที่ศึกษาธรรมะแล้วเข้าใจ ก็รู้ว่าตัวเองมีอกุศลไม่ดีอะไร ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เช่น รู้ว่าความโกรธไม่ดี ควรละ ควรขัดเกลา ก็ยังละได้ยากเลย แล้วจะไปเปลี่ยนคน อื่นยิ่งยากกว่าค่ะ
ผมหมายถึงว่า เราไม่อยากจะเอาตัวรอดคนเดียว คือ คิดถึงคนทั้งหลายอื่นๆ ที่ทำให้บ้านเมืองเรายุ่งๆ อยู่อย่างเดี๋ยวนี้ ก็เพราะเขามีความคิดตามแนวทำนองอย่างนี้ แล้วเราจะทำอย่างไรกับคนพวกนี้ซึ่งทำให้บ้านเมืองเรายุ่งไม่สิ้นสุดเสียที อย่างน้อยก็ให้ค่อยยังชั่วลงบ้าง
ท่านอ.สุจินต์ ยากนะคะ เพราะว่าเพียงแต่อยากจะให้ผู้ใดสนใจ แม้แต่จะรับฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วทรงแสดงไว้ ก็ยากเสียแล้วเพราะว่าบางท่านอาจจะเห็นว่า ไม่เป็นประโยชน์ บางท่านอาจจะเห็นว่าคร่ำครึ ไม่ทันสมัย เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ไม่รู้เลยว่า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่องของธรรม ซึ่งเกิดปรากฏทุกยุคทุกสมัยธรรมไม่สาธารณะ อบรมปัญญาเพื่อเข้าใจความจริงของตนเอง เกื้อกูล เท่าที่จะช่วยได้ ช่วยไมได้ก็วางเฉย เพราะเข้าใจว่าเป็นธรรมและเป็นอนัตตา ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมบูชาพระรัตนตรัยอันเป็นสรณะสูงสุดของข้าพเจ้า
ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านครับ
ข้าพเจ้าคงพูดได้ตามปัญญาอันน้อยนิดว่า กรรมใดใครก่อ
ด้วยอาชีพครู เคยทุกข์กังวลกับลูกศิษย์ที่นอกลู่นอกทาง ซึ่งมีจำนวนมาก เคร่งเครียดกับความเปลี่ยนแปลงทางสภาพสังคมที่เรารู้สึกว่าแย่ลงทุกนาที
แต่เมื่อฟังท่านอาจารย์บรรยาย ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า คิดว่าเริ่มชิน และมองโลกเปลี่ยนไป วันนี้มองลูกศิษย์ด้วยความรู้สึกว่า เตือนได้แค่ไหนก็แค่นั้น มีโอกาสเมื่อไรก็รีบอบรม น้ำหยดลงหิน นอกนั้นให้กรรมเป็นผู้จัดการ ถ้าเรามั่นคงในกรรม ในผลของกรรม ความทุกข์ก็น้อยลง จริงๆ
กราบละอองธุลีพระบาทพระศาสดา
กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์
ด้วยสำนึกในพระคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้
จะทำอย่างไร กับคนที่ทำบาป หากเป็นบุคคลที่ไม่ผูกพันเกี่ยวข้อง คงไม่ต้องคิดมาก ว่าจะทำอย่างไร แต่กับบุคคลใกล้ชิดหรือผูกพันก็อดคิดไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ถึงแม้รู้ว่าทำไม่ได้ ทุกอย่างเกิดเพราะเหตุปัจจัยเพราะว่ายังเป็นเราและเป็นเขาอยู่ ยังไม่มีสัญญาที่มั่นคงว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ
ขออนุโมทนาคะ