หนทางของคนพาล กับ บัณฑิต
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๒๑๑๒
บรรยายโดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
... หนทางของคนพาล กับ บัณฑิต ...
เรื่องของอกุศลทั้งหลายเป็นเรื่องของคนพาล ไม่ใช่เป็นของบัณฑิต เพราะฉะนั้น คนพาลจะไกลตัวหรือว่าจะใกล้ตัว เพราะบางท่านคิดถึงลักษณะของพาลว่า เป็นลักษณะของผู้อื่น แต่ว่าถ้ารู้ว่าขณะนี้คืออกุศลจิต จะทำให้รังเกียจอกุศลเพิ่มขึ้น ไม่ปรารถนาที่จะให้ตนเองเป็นคนพาล หรือมีอกุศลมากๆ อย่างนั้น ข้อความในมโนรถปุรณี อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ วรรคที่ ๑ อรรถกถา ลักขณสูตร ข้อ ๔๔๑
มีข้อความว่า "หนทางอันคนพาลไปแล้ว ย่อมเป็นดุจหนทางที่เปลวเพลิงอันเผาไหม้ต้นไม้ กอไม้ บ้านและนิคม เป็นต้น ไปแล้วฉะนั้น" คนพาล คือ อกุศลจิตนะคะ เพราะฉะนั้น เวลาที่อกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นดุจหนทางที่เปลวเพลิง อันเผาไหม้ต้นไม้ กอไม้ บ้านและนิคม เป็นต้น ไปแล้ว ฉะนั้น
"หนทางอันบัณฑิตไปแล้ว เป็นเช่นเดียวกันกับหนทางอันเมฆ ซึ่งมาจากทิศทั้ง ๔ นำความถึงพร้อมแห่งข้าวกล้านานาชนิดยังหนองและบึงให้เต็มแล้ว"
นี่คือหนทางของบัณฑิตนะคะ คือไปทางกุศล ทางอโลภะคือหนทางของบัณฑิต คือไปทางกุศล ทางอโลภะ ทางการไม่ติด ทางการบริจาค ทางการสละ เช่นเดียวกันกับหนทางอันเมฆ ซึ่งมาจากทิศทั้ง ๔ นำความถึงพร้อมแห่งข้าวกล้านานาชนิด ยังหนองและบึงให้เต็มแล้ว เพราะย่อมนำมาซึ่งสมบัติในหนทางซึ่งบัณฑิตไปแล้ว ไม่ใช่นำมาซึ่งไฟไหม้ ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างแต่ว่านำมาซึ่งข้าวกล้านานาชนิด
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
คุณคือความเป็นสหาย ย่อมไม่มีในคนพาล [ชาดก]
ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐที่สุด สำเร็จแล้วแต่ใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใส กล่าวอยู่ก็ตาม ทำอยู่ก็ตาม สุขย่อมไปตามบุคคลนั้น เพราะสุจริต ๓ อย่าง เหมือนเงา มีปกติไปตาม ฉะนั้น ผู้ทำบุญไว้แล้ว ย่อมบันเทิงในโลกนี้ ย่อมบันเทิงในโลกหน้า ย่อมบันเทิงในโลกทั้งสอง ผู้ทำบุญไว้แล้วนั้นย่อมบันเทิง ผู้ทำบุญไว้แล้วนั้น เห็นความบริสุทธิ์แห่งกรรมของตนแล้ว ย่อมบันเทิงอย่างยิ่ง ชนเหล่าใดรู้ธรรมอันเป็นสาระโดยความเป็นสาระ และ รู้ธรรมอันหาสาระมิได้โดยความเป็นธรรมอันหาสาระมิได้ ชนเหล่านั้น มีความดำริชอบเป็นโคจรย่อมบรรลุธรรม อันเป็นสาระ
อนุโมทนา
ฟ้ากับดินไกลกัน ฝั่งนี้กับฝั่งโน้นของมหาสมุทรไกลกัน ที่ที่พระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตกไกลกัน ธรรมะของสัตบุรุษและอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้นอีก หนทางที่ถูกไกลจากหนทางที่ผิด เพราะหนทางถูกนำไปสู่การสิ้นอาสวะกิเลส แต่หนทางผิดทำให้วนเวียนอยู่ในวัฏฏ์ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
หนทางของคนพาลมีแต่ทุกข์ เพราะกรรมที่พาลทำไว้เป็นกรรมไม่ดี
หนทางของบัณฑิตนำมาซึ่งความสุข เพราะกรรมที่บัณฑิตทำไว้เป็นกรรมดี
ก็ข้อปฏิบัติอันเข้าไปอาศัยลาภ เป็นอย่างอื่น ข้อปฏิบัติอันยังสัตว์ให้ถึงพระนิพพาน เป็นอย่างอื่น (คนละอย่าง) ภิกษุผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าทราบเนื้อความนั้นอย่างนี้แล้ว ไม่พึงเพลิดเพลินสักการะ พึงตามเจริญวิเวก การสมาคมกับสัตบุรุษแม้คราวเดียวเท่านั้น การสมาคมนั้นย่อมรักษาผู้นั้นไว้ได้
การสมาคมกับอสัตบุรุษแม้มากครั้ง ก็รักษาไม่ได้ พึงอยู่ร่วมกับสัตบุรุษ พึงกระทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษ เพราะรู้ทั่วถึงสัทธรรมของสัตบุรุษ ย่อมมีแต่ความเจริญ ไม่มีความเสื่อม
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การไม่คบคนพาล ๑
การคบบัณฑิต ๑
การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑
นี้เป็นอุดมมงคล
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
คนพาลผู้ไปสู่วินิบาต [อุปริปัณณาสก์]
คนพาลเกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก ถึงเกิดเป็นมนุษย์ก็อยู่ในสกุลต่ำ การได้อยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่ามนุษย์โอกาสที่จะประพฤติธรรมเข้าใจสภาพธรรมะตามความเป็นจริงเป็นไปได้ยาก ซึ่งตรงกันข้ามกับบัณฑิต การเกิดเป็นมนุษย์แสนยาก หากปล่อยโอกาสให้ผ่านไปไม่ศึกษาพระธรรมให้รู้ว่าหนทางของบัณฑิตและคนพาลเป็นอย่างไร โอกาสจะหลงผิดเป็นพาลจะมากแค่ไหน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คนพาล เป็นผู้มองเห็นเฉพาะชาตินี้ชาติเดียว ประกอบอกุศลกรรมประการต่างๆ ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ โดยที่ไม่คำนึงถึงว่าผลข้างหน้าในภพชาติต่อไปจะเป็นอย่างไร คิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว ทำความชั่วได้ง่ายมาก คนอื่นแนะนำให้ดีได้ยาก เป็นผู้ประมาทอยู่เสมอ เมื่อใครได้อยู่ใกล้ คบค้าสมาคมบ่อยๆ การที่จะไม่โน้มเอียงไปตามคนพาลนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม บัณฑิตเป็นผู้ที่มีปัญญาดำเนินไปด้วยปัญญา คิดดี ทำดี พูดดี อบรมเจริญปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจในลักษณะของสภาพธรรม และ แนะนำบุคคลอื่นให้ดำเนินไปในทางที่ดี คอยเกื้อกูลให้ได้เข้าใจธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริง บ่อยๆ เนืองๆ พระผู้มีพระภาคจึงได้ทรงแสดงเรื่องการไม่คบคนพาล การคบบัณฑิตไว้ ซึ่งจะเป็นเครื่องนำพาเราไปสู่หนทางแห่งความเจริญได้ ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอถวายความนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสูตร ๕ พระสูตร ว่าด้วยคนพาลและบัณฑิต
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
ในอังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ โรหิตัสสวรรคที่ ๕ สุวิทูรสูตร ข้อ ๔๗ พระผู้มีพระภาคตรัสกับพระภิกษุทั้งหลายว่า "สิ่งที่ไกลกันแสนไกล ๔ ประการ คือฟ้ากับดิน นี้เป็นสิ่งที่ไกลกันแสนไกลประการที่ ๑ ฝั่งนี้และฝั่งโน้นของมหาสุมทร นี้เป็นสิ่งที่ไกลกัแสนไกลประการที่ ๒ พระอาทิตย์ยามขึ้นและอัสดงคต นี้เป็นสิ่งที่ไกลกันแสนไกลประการที่ ๓ ธรรมของสัตบุรุษและธรรม ของอสัตบุรุษ นี้เป็นสิ่งที่ไกลกันแสนไกลประการที่ ๔ "
และนักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวว่าฟ้ากับดินไกลกัน ฝั่งสมุทรก็ไกลกัน พระอาทิตย์ส่องแสงยามอุทัยกับยามอัสดงไกลกัน บัณฑิตกล่าวว่า ธรรมของสัตบุรุษ กับธรรมของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น การสมาคมกับสัตบุรุษมั่นคงยืนยาว ย่อมเป็นอย่างนั้น ตราบเท่ากาลที่พึงดำรงอยู่ ส่วนการสมาคมกับ อสัตบุรุษย่อมจืดจางเร็วเพราะฉะนั้น ธรรมของสัตบุรุษจึงไกลกว่าธรรมของอสัตบุรุษ