โทษของอกุศล

 
พุทธรักษา
วันที่  15 พ.ย. 2551
หมายเลข  10396
อ่าน  3,906

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น.

ท่านผู้ฟัง โทษของความโกรธ โทษของโลภะจะเป็นอย่างไร ตอนมีชีวิตอยู่ จะเป็นอย่างไร ตอนตายไปแล้ว จะเป็นอย่างไร

ท่านอาจารย์ เวลาโกรธ ไม่สบายใจ เวลาโกรธมาก ก็จะไปทำร้ายคนอื่นได้ เวลาโลภะเกิด ก็มีความติดข้องต้องการ เวลาไม่ได้ก็เกิดโทสะ เมื่อได้มาแล้วก็ต้องรักษาไว้อย่างดี กลัวสูญหายอีกหนื่อยไหม ถ้าไม่มีเลย สบายไหม

เวลาโลภะเกิดครั้งหนึ่งก็ดับไป เวลาโทสะเกิดครั้งหนึ่ง ... ก็ดับไป แต่จะสะสมในจิตต่อๆ ไป ทำให้คนเรามีอุปนิสัยต่างกัน

บางคนโลภมากติดข้องมาก เห็นอะไรก็อยากได้ไปหมด คนที่โทสะมากเห็นอะไรก็ไม่ชอบใจทุกอย่าง ขวางหูขวางตาไปหมด ไม่ถูกใจสักอย่างหนึ่ง ชาติหน้าต่อไปก็สะสมเป็นบุคคลอย่างนี้แหละ อัธยาศัยก็ต่างกัน บางคนตระหนี่ บางคนริษยา บางคนโลภะมาก บางคนโทสะมาก นี้คือ โทษของอกุศล ในชาตินี้และชาติต่อไป

และถ้าถึงขั้นทำอกุศลกรรมมีการฆ่าสัตว์เบียดเบียนบุคคลอื่น ทำทุจริตกรรม ฯลฯ ก็เป็นเหตุให้เกิดในอบายภูมิ คือภูมิที่ไม่มีความเจริญในธรรม

บรรยายโดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 15 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 15 พ.ย. 2551

เวลาอกุศลจิตเกิดไม่ว่าโลภะ โทสะ ก็มีผลเป็นโทษ อกุศลจิตที่เกิดขึ้นแต่ละขณะจะสะสมในจิตต่อๆ ไปเป็นอุปนิสัยไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้าก็จะเป็นผู้ติดข้องมากขึ้นหรือเป็นผู้มักโกรธเสมอๆ เมื่อสะสมจนมีกำลังสามารถที่จะกระทำอกุศลกรรมบถได้ก็จะส่งผลให้ไปเกิดในทุคติภูมิ

กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ajarnkruo
วันที่ 16 พ.ย. 2551

ที่จะเห็นโทษจริงๆ คือสติสัมปชัญญะเกิดระลึกรู้ลักษณะของอกุศลธรรมนั้นๆ ที่กำลังปรากฏ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 16 พ.ย. 2551

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 2

๕. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า บาปมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลง (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนพาลเมื่อสั่งสมบาปแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้น.

๖. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ธีรชน (ชนผู้มีปัญญา) สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
wannee.s
วันที่ 16 พ.ย. 2551

เมตตาเป็นสภาพธรรมที่ตรงข้ามกับโทสะขณะที่ขุ่นเคืองใจ ถ้าสติและปัญญาเกิดจะเห็นโทษของความโกรธ จะเกิดเมตตาบุคคลที่ท่านกำลังขุ่นเคืองใจ นี่เป็นหนทางที่จะระงับจิตใจให้สงบขึ้น เพราะถ้าวันหนึ่งๆ เต็มไปด้วย โลภ โกรธ หลง ไม่สงบเลยทั้งวัน

ขณะใดที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ก็สงบขึ้น นี่คือสมถภาวนาในชีวิตประจำวัน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
khampan.a
วันที่ 16 พ.ย. 2551

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดีงาม ไม่นำประโยชน์อะไรมาให้เลย ให้ผลเป็นทุกข์ แต่เนื่องจากเราได้สะสมอกุศลมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์นับชาติไม่ถ้วน เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย อกุศลธรรมก็เกิดขึ้นเป็นไปเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ทั้งโลภะ ความติดข้อง ยินดีพอใจ หรือโทสะ ความขุ่นเคืองใจ โกรธ ไม่พอใจ เป็นต้น ล้วนเป็นอกุศลธรรมทั้งนั้น (จิตที่มีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมด้วย เป็นอกุศลจิต อกุศลจิตเป็นอกุศลธรรม อกุศลเจตสิกเป็นอกุศลธรรม) ถ้าหากว่าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่ได้ฟังพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ย่อมจะไม่เห็นโทษของอกุศลที่เกิดขึ้น เมื่อไม่เห็นโทษของอกุศล ก็จะไม่ขัดเกลาอกุศลในชีวิตประจำวันให้เบาบางลง เมื่อไม่ขัดเกลา ก็นับวันแต่จะมีอกุศลเกิดมากขึ้นๆ สะสมมากขึ้นๆ ถ้ามีกำลังแรงกล้า ก็สามารถล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรมประการต่างๆ เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อน เป็นอกุศลกรรมบถ ขณะที่กระทำอกุศลกรรม ประการต่างๆ นั้น อบายภูมิ มีนรก เป็นต้น รออยู่ข้างหน้าแล้ว

อกุศล น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่ควรประมาทในอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย โดยอาศัยอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม บ่อยๆ เนืองๆ เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง และเพื่อขัดเกลากิเลสในชีวิตประจำวันด้วยครับ

... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 1 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
aurasa
วันที่ 5 ม.ค. 2554

กราบอนุโมทนาในกุศลทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
nong
วันที่ 26 มิ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
เซจาน้อย
วันที่ 26 มิ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"ควรหรือไม่ที่จะเป็นผู้ไม่รู้ต่อไปด้วยการสะสมอกุศลมากขึ้นในชีวิตปประจำวัน"

"ขจัดมลทิน คือ อกุศล ด้วยกุศล"

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 9 ก.ย. 2558

สาธุ อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
สิริพรรณ
วันที่ 22 ก.ย. 2563

กราบนอบน้อมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

กราบนอบน้อม พระธรรมและพระอริยสงฆ์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

การศึกษาพระธรรม ได้เห็นโทษของอกุศลเพราะปัญญาที่เริ่มเข้าใจความเป็นสภาพธรรมที่บังคับบัญชาไม่ได้แต่สะสมสืบต่อทุกขณะ อกุศลเป็นโทษทำร้าย เกิดความทุกข์เดือดร้อนทั้งสิ้น มีกำลังเพราะการสะสม แม้บินหนีไปบนอากาศท้องฟ้าสูงสุด หรือกลางทะเล ใต้มหาสมุทรสุดลึก ก็ไม่พ้นอกุศลวิบาก รูปร่างกายที่วิจิตรตามผลของกรรมทุกประการ

ตราบใดที่ยังไม่ถึงความเป็นอริยบุคคล อนุสัยกิเลสยังไม่ถูกดับ พืชเชื้อของอกุศลยังมีอยู่ลึกที่สุด. ก็ประมาทอกุศลธรรมไม่ได้ เหตุนี้จึงต้องฟังพระธรรมของพระพุทธองค์ด้วยความเคารพและอดทน เพื่อประโยชน์สูงที่สุดคือเข้าใจความจริงของสภาพธรรมละคลายความเห็นผิด ที่จะดับทิฎฐานุสัยอันเป็นต้นเหตุของอกุศลที่จะนำไปสู่อบายภูมิ เมื่อนั้นจึงจะเริ่มเข้าสู่ความปลอดภัยและนำไปสู่ทางที่ไม่ต้องเกิดกิเลสอกุศลอีกเลย

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

และกราบขอบพระคุณสหายธรรมทุกท่าน ในการอนุเคราะห์เกื้อกูล พระธรรม เตือนใจบ่อยๆ เนืองๆ ด้วยค่ะ

ขออนุโมทนายินดีในมหากุศลนี้ทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
panasda
วันที่ 9 เม.ย. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
Jarunee.A
วันที่ 23 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ