ไม่รู้จักโลภะ ตัวโลภะรู้แต่เรื่องโลภะ

 
เมตตา
วันที่  18 พ.ย. 2551
หมายเลข  10430
อ่าน  1,385

ได้ฟังการสนทนาพระธรรมระหว่างท่านอาจารย์สุจินต์และพี่บุษบงรำไพ

ท่านอาจารย์บรรยายว่า โลภะมีตั้งแต่อย่างหยาบจนกระทั่งอย่างละเอียด ทุกอย่างในวันนี้เป็นไปตามโลภะโดยไม่รู้ตัว ก็เริ่มเห็นว่าจริงๆ แล้วโลภะครอบงำอยู่ตลอดชีวิต

ในสังสารวัฎฎ์ ตราบใดที่ยังมีโลภะอยู่ ทุกอย่าง ทุกขณะ เป็นไปตามโลภะ แล้วแต่ว่าจะให้แสวงหาอะไร ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือทางใจ นี่แสดงว่าเข้าใจเรื่องของโลภะ

แต่เวลาที่โลภะเกิดขึ้นทำกิจการงาน ไม่เห็น และไม่รู้ว่าเป็นโลภะ เพราะรู้จักเพียงชื่อ และ เรื่องราวของโลภะ เพราะฉะนั้นเวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด ลักษณะของธรรมะนี้ต่างกัน โดยที่ว่าเราอาจจะได้ยินได้ฟังมาแล้วว่าสภาพธรรมนั้นต่างกันเป็นสองอย่างคือ เป็นนามธรรม และ รูปธรรม นี่คือขั้นการฟัง ได้ยินแต่เวลาที่สติสัมปชัญญะเกิด ลักษณะของรูปปรากฎโดยไม่ต้องเรียกชื่อ ไม่ต้องไปย้ำว่าธรรมะต่างกันเป็นสองอย่าง ลักษณะหนึ่งไม่ใช่สภาพรู้ ขณะนี้กำลังเป็นลักษณะของรูปซึ่งไม่ใช่สภาพรู้ ไม่ใช่ให้ไปคิดอย่างนั้นเลย แต่ทั้งหมดที่ได้ฟังแล้วนั้นเป็นสังขารขันธ์ ที่รูปก็มีปรากฎขณะนี้ นามธรรมก็มี แต่ขณะใดที่สติสัมปชัญญะไม่เกิดทั้งนามธรรมและรูปธรรมก็ดับหมดไป ด้วยเหตุนี้สาระจริงๆ จึงไม่ใช่ ไม่ว่าจะเป็นสุขทุกข์ ก็ชั่วขณะที่หมดไปเรื่อยๆ แต่ต้องเป็นขณะที่ปัญญาสามารถที่จะเข้าใจความจริงของสภาพธรรม


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 18 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
choonj
วันที่ 18 พ.ย. 2551

ขณะที่โลภะเกิดทำกิจการงาน ขณะนั้นไม่รู้ว่าเป็นโลภะ ไม่มีสติสัมปชัญญะ สติไม่เกิด ขณะนั้นมีแต่สภาพธรรมทีติดข้องต้องการที่เกิดอย่างเดียวติดข้องในอะไรก็แล้วแต่ และที่มีการแสวงหานั้นเป็นหน้าที่ของฉันทะ ที่แสวงหาเพื่อได้มาสิ่งที่ต้องการภายหลังเมื่อสติสัมปชัญญะเกิด รู้ว่าถูกโลภะครอบงำ จึงเข้าใจว่าเป็นอกุศล ขณะที่สติเกิดพร้อมปัญญาก็รู้ว่า มีสภาพธรรมที่เป็นสภาพรู้และสภาพธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ โดยไม่ต้องเรียกชื่อ จึงเรียกว่าปัญญาเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงถ้ายังเรียกชื่ออยู่ รูปธรรมนามธรรมก็ดับหมด ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ajarnkruo
วันที่ 18 พ.ย. 2551

สติปัฏฐานไม่เกิด คือหลับ ที่เรารู้แต่เรื่องของโลภะไม่เข้าถึงตัวโลภะก็เพราะหลับ หลับอยู่ในความมืดด้วยความไม่รู้ หลับอยู่ห้วงน้ำแห่งอกุศลธรรมทั้งหลาย โลภะตัวจริงเกิดเมื่อไรก็ทำให้หลับ แต่การรู้ชื่อ แล้วคิดพิจาณาชื่อด้วยกุศลจิตบ้างก็ยังดี เป็นการค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปจนกว่าแม้หลับอยู่ก็ระลึกรู้ได้อย่างถูกต้องว่ายังหลับ (หลงลืมสติ) ต่างจากขณะที่ระลึกรู้ได้ว่าตื่นอยู่ ไม่ใช่หลับ (สติปัฏฐานเกิด)

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
suwit02
วันที่ 19 พ.ย. 2551

สาธุ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ