อเหตุกวิบากจิต
อเหตุก (ไม่มีเหตุประกอบ) + วิปาก (ความสุกวิเศษ ผล) + จิตฺต (จิต)
วิบากจิตที่ไม่มีเหตุเจตสิกประกอบ หมายถึง วิบากจิต ๑๕ ดวง ที่ไม่มีเหตุเจตสิก ๖ เกิดร่วมด้วยแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ อเหตุกกุศลวิบากจิต ๘ ดวง อกุศลวิบากจิต ๗ ดวง
๑. อุเบกขาจักขุวิญญาณกุศลวิบาก ๑. อุเบกขาจักขุวิญญาณอกุศลวิบาก
๒. อุเบกขาโสตวิญญาณกุศลวิบาก ๒. อุเบกขาโสตวิญญาณอกุศลวิบาก
๓. อุเบกขาฆานวิญญาณกุศลวิบาก ๓. อุเบกขาฆานวิญญาณอกุศลวิบาก
๔. อุเบกขาชิวหาวิญญาณกุศลวิบาก ๔. อุเบกขาชิวหาวิญญาณอกุศลวิบาก
๕. สุขกายวิญญาณกุศลวิบาก ๕. ทุกขกายวิญญาณอกุศลวิบาก
๖. อุเบกขาสัมปฏิจฉันนกุศลวิบากจิต ๖. อุเบกขาสัมปฏิจฉันนอกุศลวิบากจิต
๗. อุเบกขาสันตีรณกุศลวิบากจิต ๗. อุเบกขาสันตีรณอกุศลวิบากจิต
๘. โสมนัสสันตีรณกุศลวิบากจิต อเหตุกกุศลวิบากทุกดวง (เว้นสันตีรณจิตทั้ง ๒) รู้อารมณ์ที่ดีปานกลาง (อิฏฐมัชฌัตตารมณ์) หรืออารมณ์ที่ดียิ่ง (อติอิฏฐารมณ์) ก็ได้
ส่วนอุเบกขาสันตีรณจิตรู้อารมณ์ที่ดีปานกลางเท่านั้น โสมนัสสันตีรณจิตรู้อารมณ์ที่ดียิ่งเท่านั้น อกุศลวิบากทุกดวงรู้อารมณ์ที่ไม่ดี (อนิฏฐารมณ์) เท่านั้น
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารซนเขตต์
ขอเรียนถามเพิ่มเติมครับ
๑ อเหตุกวิบากจิต ดังกล่าวนี้ ท่านรวมเกิดกับผู้ที่เกิดในกามภูมิ และรวมถึงพรหมบุคคลที่มีครบขันธ์ห้า ด้วยใช่ไหมครับ.
๒.กุศลจิตของพรหมบุคคลที่มีขันธ์ห้า ขณะที่ไม่ได้เข้าฌาน สามารถให้ผลเป็นอเหตุกวิบากจิต ได้ด้วย ใช่หรือไม่ครับ
เรียนความคิดเห็นที่ ๕ ครับ
๑ อเหตุกวิบากจิต ดังกล่าวนี้ ท่านรวมเกิดกับผู้ที่เกิดในกามภูมิ และรวมถึงพรหมบุคคลที่มีครบขันธ์ห้า ด้วยใช่ไหมครับ.
ถูกต้องครับ เช่น พรหมบุคคล ก็มีเห็น มีได้ยิน และมีพรหมบุคคลเป็นจำนวนมากที่ได้ฟังพระธรรมด้วยครับ
๒.กุศลจิตของพรหมบุคคลที่มีขันธ์ห้า ขณะที่ไม่ได้เข้าฌาน สามารถให้ผลเป็นอเหตุกวิบากจิต ได้ด้วย ใช่หรือไม่ครับ
ใช่ครับ เมื่อกุศลเกิดแล้ว สำเร็จแล้ว ก็สะสมอยู่ในจิต สามารถให้ผลต่อไปในภายหน้า ที่เป็นอเหตุกวิบากจิตได้ ครับ
... ยินดีในกุศลของคุณ Thanapolb และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
กราบขอบพระคุณอาจารย์และอนุโมทนาในความเกื้อกูลธรรมะของอาจารย์คำปั่นครับ
เรียนถามครับ
กุศลจิตของผู้ที่เจริญฌาน ในขณะที่เข้าฌาน สามารถให้ผลเป็นอเหตุวิบากจิต ได้ไหมครับ