คำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง

 
พุทธรักษา
วันที่  21 พ.ย. 2551
หมายเลข  10463
อ่าน  1,014

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปรมัตถธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงๆ แต่เราไม่เคยรู้ตอนที่เป็นสติปัฏฐาน จะไม่มีชื่อใดๆ เข้ามาปะปนทั้งสิ้น.ความจริงคือ ขณะที่เห็นเป็นคนนี้ ต้องมี เห็น แน่นอนที่สุดจักขุทวารวิถีนี้ต้องเกิด และจักขุทวารวิถี จะไม่มีความคิดนึกใดๆ เลยแต่ที่กำลังเห็นว่าเป็นคนนี้ เกิดเร็วมากจึงทำให้มีความคิด ว่าเป็นคน สัตว์ สิ่งของ.แม้แต่กำลังเห็นคนถ้าเป็นการอบรมปัญญา ที่จะรู้สภาพธรรม ที่มีจริงๆ ทางตาขณะนี้นะคะคือการฟัง จากสิ่งที่มี ถ้าไม่คิด ก็ไม่เป็นคนหนังสือพิมพ์ ก็ไม่มีนายก ไม่มีไฟไหม้ ไม่มีน้ำท่วมเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาฉันใดขณะนี้นะคะ ก็เป็นสิ่งที่มี ซึ่งแต่ก่อนเราไม่เคยที่จะระลึกแต่พอฟังบ่อยๆ เข้า ก็เกิดระลึกว่าที่แท้จริงแล้ว ขณะนี้ มีสิ่งที่ปรากฏ

เพราะฉะนั้น คนนั้น ก็เป็นคนที่อาจหาญร่าเริง ไม่หลับตา ไม่หลีกเลี่ยงแต่ขณะที่กำลังเห็นนี้ ค่อยๆ เข้าใจถูก ค่อยๆ เห็นถูกค่อยๆ รู้ขึ้นทีละน้อยจริงๆ ว่า เป็นเพียงธรรมะที่ปรากฏ นอกจากนั้นเป็นความคิด จะได้รู้จักตัวความคิด หรือโลกของมโนทวารแท้จริงแล้ว ทางมโนทวารสร้างเรื่องราวต่างๆ เป็นคนนั้น คนนี้ด้วยเหตุนี้ จึงต้องแยกแต่ละทาง.ทางจักขุทวารวิถีนี้ กำลังมีปรมัตถธรรม เป็นอารมณ์ยังไม่มีการคิดนึกเรื่องสิ่งนั้น ทางหูก็มีเสียงเท่านั้นเป็นอารมณ์ ยังไม่มีการรู้ความหมายของเสียงสูงๆ ต่ำๆ นั้นเลย จะทำให้เราค่อยๆ เห็นความเป็นจริงว่า ธรรมะเกิดดับสืบต่อ จนแยกไม่ออก ถ้าไม่อาศัยสติ และความเข้าใจที่ถูกต้อง จากการฟังนี้นะคะ เริ่มมีการระลึกว่า ขณะนี้ เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏเพียงหลับตา สิ่งนี้ก็ไม่มีค่อยๆ เข้าใจเพิ่มขึ้น ทีละน้อยๆ จนกว่าจะเข้าใจเพิ่มขึ้นอีกๆ ถึงอย่างไร ก็ขอให้เป็นผู้ฟัง และเป็นผู้พิจารณาสิ่งที่ได้ฟัง โดยละเอียดสุขุมจริงๆ แล้วจะได้สาระ ได้สิ่งที่ถูกต้องและไม่ใช่การเข้าข้างตัวเอง หรือเข้าข้างใครทั้งนั้นไม่ใช่เพราะตำรากล่าวมาแต่เป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ ขณะนี้ค่ะถ้าเราสามารถที่จะเข้าใจถูกต้องขึ้นนั้นคือ" คำที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง"


บรรยายโดยอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 21 พ.ย. 2551

ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจทุกสิ่งเกิดขึ้นเพียงสั้นๆ แล้วก็หมดไปอย่างรวดเร็วเกิดดับสืบต่อกันรวดเร็วจนกระทั่งการดับไปหมดไปไม่ปรากฏ

ไม่รู้ความจริงว่าเป็นปรมัตถธรรมมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ไม่ยั่งยืนไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ บุคคลใดๆ ทั้งสิ้น

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
suwit02
วันที่ 21 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 21 พ.ย. 2551

ไม่ว่าทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย มีปรมัตถธรรมเป็นอารมณ์ ส่วนทางใจนั้น คิดนึกถึงเรื่องราวต่างๆ เป็นคนนั้นคนนี้ เป็นสัตว์ เป็นสิ่งของต่างๆ ตามแต่ที่จะคิดนึกปรุงแต่งไป เรื่องราวต่างๆ ไม่มีจริง แต่คิดเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
SIRICHAI
วันที่ 21 พ.ย. 2551

ขอนอบน้อมบูชาพระรัตนตรัยอันเป็นสรณะสูงสุดของข้าพเจ้า

ขออนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้ ที่นำธรรมะดีๆ มาเพิ่มปัญญาให้กระผม

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pornpaon
วันที่ 22 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกท่านค่ะ . . .

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pamali
วันที่ 5 ก.ค. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ