บุญญกิริยาวัตถุ - อปจายนะ (๑)

 
พุทธรักษา
วันที่  26 พ.ย. 2551
หมายเลข  10524
อ่าน  2,874

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากหนังสือบุญญกิริยาวัตถุ ๑๐ โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

คุณวันทนา สวัสดีค่ะ ก่อนที่เราจะสนทนากัน ดิฉันมีเรื่องราวชีวิต ความเป็นอยู่ทั่วๆ ไป ที่ใคร่จะนำมาเล่าสู่ท่านผู้ฟังเมื่อประมาณ ๔-๕ วันมานี้ ดิฉันได้พบเพื่อนเก่าคนหนึ่งที่เคยเรียนหนังสือมาด้วยกัน มีคำพูดประโยคหนึ่ง ซึ่งเพื่อนผู้นั้นได้ปรารภกับดิฉันว่า

"ฉันไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าชีวิตของเรา เมื่อพ้นจากการเป็นนักเรียนแล้ว ต้องทำงาน หาเลี้ยงตัวเอง รับผิดชอบความเป็นอยู่ของตัวเอง มีปัญหาขัดข้องมีทุกข์นานัปการ ที่ต้องแก้ไข ต้องฝ่าฟัน มิฉะนั้นแล้ว เราก็จะอยู่ในโลกนี้ไม่ได้ น่าประหลาดที่ความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเรา มาก่อนตอนที่เป็นเด็กเลย"

"ก็ตอนเป็นเด็ก เราจะรู้สึกว่าชีวิตนี้เป็นภาระอันหนักได้อย่างไร เพราะผู้ที่รับภาระอันหนักนี้แทนเรา ก็คือ พ่อแม่ของเรานั่นเอง ชีวิตของเรา กว่าจะเติบโตมา หาเลี้ยงตัวเองได้ ก็ได้สร้างความลำบาก ความเป็นภาระ แก่พ่อแม่ของเรามากมายท่านได้ทำหน้าที่เสียสละ เพื่อเราทุกอย่าง

สรุปแล้ว เพราะเรามีพ่อแม่เป็นที่พึ่งในยามปฐมวัยชีวิตของเรา จึงรู้จักแต่ความเบาสบายและด้วยความรัก ความเมตตา ที่ท่านมีให้เราสม่ำเสมอท่านจึงเป็นที่พึ่งที่ไม่เคยสร้างความผิดหวัง ความช้ำใจให้แก่เราเลย"

เมื่อพูดถึงคำว่า "ที่พึ่ง" คำนี้มีความหมาย มีความสำคัญอย่างมากมายแก่ชีวิต ที่เราต้องพากเพียร อดทน ทุ่มเทความสามารถ ทำมาหาเลี้ยงชีพทุกวันนี้ ก็เพื่อเป็นที่พึ่งของตัวเอง เพราะชีวิตจะดำรงอยู่ได้ ต้องมีปัจจัย ๔ ปัจจัย ๔ เป็นที่พึ่งที่อาศัยภายนอก

แต่ว่าชีวิตนั้น ถึงแม้จะมีที่พึ่งที่อาศัยทางกาย โดยพร้อมมูลแล้วก็ตามแต่ก็หาเป็นความสุขอันแท้จริงไม่ เพราะจิตใจของผู้ที่เพลิดเพลินยินดีในวัตถุนั้นไม่เป็นอิสระจากกิเลส ยังติดข้อง ยินดียินร้ายในทรัพย์สมบัติที่ตนรักและหวงแหน ทำให้เกิดความทุกข์กังวล เช่น เกรงว่าจะพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรักบ้างเกรงว่าจะประสบกับสิ่งซึ่งไม่เป็นที่รักบ้างสภาพจิตเช่นนี้ ขาดที่พึ่งทางใจ

การศึกษาพระธรรม จากการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ตามกำลังความสามารถ เป็นหนทางที่ทำให้ได้พบที่พึ่งอันประเสริฐที่จะช่วยขจัดปัญหาความทุกข์ ความขัดข้องใจใดๆ ในชีวิต กุศลซึ่งเป็นที่พึ่งของจิตใจนั้น คือ "บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐"



  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เมตตา
วันที่ 26 พ.ย. 2551

กุศลซึ่งเป็นที่พึ่งของจิตใจนั้น คือ "บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐"

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ajarnkruo
วันที่ 27 พ.ย. 2551

ขุมทรัพย์คือบุญ ของผู้ใด เป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม ฝังไว้ดีแล้วด้วยทาน ศีล สัญญมะ ความสำรวม ทมะ ความฝึกตน ในเจดีย์ก็ดี ในสงฆ์ก็ดี ในบุคคลก็ดี ในแขกก็ดี ในมารดาก็ดี ในบิดาก็ดี ในพี่ชายก็ดี

ขุมทรัพย์นั้น ชื่อว่าฝังไว้ดีแล้ว ใครๆ ไม่อาจผจญได้ เป็นของติดตามตนไปได้ บรรดาโภคะ ทั้งหลายที่เขาจำต้องละไป เขาก็พาขุมทรัพย์คือบุญนั้นไป.

ข้อความบางตอนจาก นิธิกัณฑ์ในขุททกปาฐะ

[เล่มที่ 39] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ 302

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 27 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 29 พ.ย. 2551

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ที่พึ่งอันเกษมสูงสุดของข้าพเจ้า

บุคคลพึ่งได้ชั่วคราว

ทรัพย์สมบัติพึ่งได้ชั่วคราว

เหตุที่เจริญไว้ดีแล้ว เป็นที่พึ่งอันควรพึ่ง

ขออนุโมทนาคุณพุทธรักษา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pamali
วันที่ 28 มิ.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เข้าใจ
วันที่ 19 มิ.ย. 2556

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 19 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ