บุญญกิริยาวัตถุ - สมถภาวนา

 
พุทธรักษา
วันที่  28 พ.ย. 2551
หมายเลข  10535
อ่าน  2,966

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความบางตอนจากหนังสือ บุญญกิริยาวัตถุ ๑๐ โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์


สมถภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา เป็นบุญกิริยาวัตถุ ประเภทภาวนา แต่ต่างกันตรงที่ว่า สมถภาวนา ระงับกิเลสอย่างกลางวิปัสสนาภาวนา ละกิเลสอย่างละเอียด และเป็นกุศลที่ขัดเกลาอกุศลธรรมที่ไม่เป็นไปทางกาย วาจา การอบรมเจริญสมถภาวนาให้จิตมั่นคงนั้นจะต้องระลึกถึงแต่สิ่งที่ทำให้จิตใจเป็นกุศลแน่วแน่มั่นคงมากขึ้นจนเป็นสมาธิแต่ละขั้น. ฌาน หรือ ฌานจิต คือจิตที่เป็นกุศลประกอบด้วยปัญญามีความสงบมั่นคงเป็นสมาธิ ถึงขั้น อัปปนาสมาธิคือสงบมั่นคงแน่วแน่ แนบแน่นที่อารมณ์เดียว ทางใจไม่รับรู้อารมณ์อื่น ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย

การที่จะอบรมเจริญภาวนาให้จิตเป็นกุศลสงบจนกระทั่งเป็นอัปปนาสมาธิ ซึ่งเป็นขั้นฌานนั้นต้องศึกษาเรื่องสมถภาวนาอย่างละเอียด ต้องรู้ว่า ระลึกอย่างไรด้วยสภาพจิตที่เป็นกุศลประกอบด้วยปัญญาอย่างไรจึงจะสงบเป็นสมาธิแต่ละขั้นได้

การระลึกถึงสิ่งที่ทำให้จิตใจสงบ เป็นกุศล เป็นการระงับไม่ให้กิเลสเกิดขึ้นแต่ว่าจะสงบได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ก็แล้วแต่สติและปัญญา คือ ความรู้สึกตัว พร้อมกับการรู้ลักษณะของจิตที่เป็นสงบเป็นกุศลซึ่งต่างกับขณะที่เป็นอกุศล และรู้หนทาง คือการอบรมเจริญเหตุที่จะทำให้จิตสงบได้ยิ่งขึ้นด้วย

อารมณ์สมถภาวนา ๔ อย่าง ได้แก่

การระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑

การเจริญเมตตา ๑

การพิจารณาความเป็นอสุภะ คือ ความไม่งาม ๑

การระลึกถึงความตาย ๑


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 29 พ.ย. 2551

กุศลทุกอย่างควรอบรม ควรเจริญบ่อยๆ เนืองๆ ไม่มีอะไรเป็นมิตรแท้เท่ากับกุศลและปัญญาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
pornpaon
วันที่ 30 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาพี่วรรณีและคุณพุทธรักษา

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 30 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
michii
วันที่ 13 ธ.ค. 2551
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
pamali
วันที่ 28 มิ.ย. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 19 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ